News for you and news articles

รู้หรือไม่สัตว์ทะเลกินขยะพลาสติกตายมากมายเพราะว่ามันคิดว่าเป็นสาหร่ายและกลิ่นเหมือนสาหร่ายทะเลนั่นเอง ขยะพิษพลาสติกมากมายเกิดจากน้ำมือของมนุษย์แล้วผู้ที่รับกรรมไปก็คือสัตว์ทะเลต่างๆนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่สัตว์ทะเลกินพลาสติกเข้าไปเพราะว่ามันคิดว่าเป็นสาหร่ายทะเลนั่นเองทั้งกลิ่นของขยะพลาสติก  ดั่งตัวอย่างที่นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Exeter และ Society for the Protection of Turtles ได้ตรวจสอบไส้ในของ ‘เต่าเขียว’ 19 ตัวที่ถูกเกยตื้นบนชายหาดในไซปรัส พบว่าพวกมันมีแนวโน้มที่จะกินพลาสติกสีดำและสีเขียวเป็นพลาสติกสีอื่นๆ ถึง 2.5 เท่า เพราะมีสีคล้ายกับหญ้าทะเล  รู้หรือไม่ ที่สัตว์ทะเลกินพลาสติก เพราะกลิ่นเหมือนสาหร่าย ในขณะที่มหาสมุทรเต็มไปด้วยขยะ พลาสติก สัตว์ทะเล หลายร้อยชนิดก็กินขยะในปริมาณที่คนยังตกใจ เหตุผลที่หลาย ๆ คนน่าจะทราบกันดีอย่าง  อย่างที่ เต่าทะเลมักคิดว่าถุงพลาสติกใส ๆ บาง ๆ เป็นแมงกะพรุน หรือเศษพลาสติกที่โดนน้ำถูกซัดไปกลายเป็นพลาสติกชิ้นเล็กจิ๋ว เนื่องจากพวกมันมีลักษณะคล้ายกับแพลงก์ตอนทำให้ปลาหลาย ๆ ชนิดกินพลาสติกขนาดเล็กเข้าไปโดยไม่รู้ตัว นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Exeter

นักวิจัยตะลึงวานสีเทานอกชายฝั่งของโอเรกอนกินไมโครพลาสติกขนาดเล็กมากกว่า 21 ล้านตันต่อวันหวั่นอันตรายต่อชีวิตวาฬ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยรัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา พบผลกระทบสุดช็อก ระบุวาฬสีเทานอกชายฝั่งของโอเรกอนกินอนุภาคขนาดเล็กมากกว่า 21 ล้านตันต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไมโครพลาสติก หวั่นอันตรายต่อชีวิตวาฬเพราะพบอีกว่าพวกมันผอมกว่ากลุ่มอื่น ๆ  . งานวิจัยได้มุ่งเน้นไปยังกลุ่มย่อยของวาฬสีเทาที่รู้จักกันในชื่อ กลุ่มที่หากินตามชายฝั่งแปซิฟิก (Pacific Coast Feeding Group) ซึ่งมีวาฬประมาณ 230 ตัว พวกมันเหล่านี้จะเดินทางหาอาหารตั้งแต่ประเทศเม็กซิโกขึ้นมาจนถึงตอนใต้ของแคนาดา เพื่อศึกษาพฤติกรรมและสุขภาพของวาฬ นักวิจัยได้ตรวจสอบอุจาระของพวกมันรวมถึงเก็บตัวอย่างแพลงก์ตอนสัตว์ที่เป็นอาหารสำคัญตั้งแต่ปี 2015 แล้วดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง สิ่งที่พบนั้นน่าตกใจ เมื่อแพลงก์ตอนสัตว์ตัวอย่างมีอนุภาคขนาดเล็กอยู่ในตัวทั้งหมด และเกินครึ่งหรือ 50% เป็นไมโครพลาสติก จากนั้นก็รวมข้อมูลเข้ากับค่าความต้องการด้านพลังงานสำหรับวาฬสีเท่าที่กำลังตั้งท้องและให้นมลูก ว่าพวกมันต้องกินอาหารเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอต่อวัน กลายเป็นว่า นอก

  The Line สู่ The Circle! เป็นประเด็นที่นักจัยนำเสนอก็อย่างว่าแล้วนะครับถ้าประเทศที่มีเงินเขาอยากจะสร้างอะไรแล้วเขาก็จะสร้างแต่ต้องหันกลับไปดูด้วยว่าผลเสียและผลดีอย่างไหนจะมีมากกว่ากันระหว่าง The Lineการสร้างเมืองที่เป็นเส้นตรง The Circle การสร้างเมืองที่เป็นวงกลม อนาคตอาจจะเปลี่ยนแปลงไปไม่รู้สิครับอย่างไหนจะดีกว่ากัน จาก The Line สู่ The Circle! นักวิจัยแนะนำให้ซาอุดิอาระเบียเปลี่ยนจากการสร้างเมืองเส้นตรงเป็นวงกลมเพื่อลดระยะทางการสัญจร เมื่อปีที่ผ่านมาประเทศซาอุดิอาระเบียได้เผยโฉม The Line แผนเมืองใหม่แห่งอนาคตที่มีลักษณะเป็นเมืองแนวตั้งแบบเส้นตรงยาวถึง 170 กิโลเมตรเพื่อรองรับจำนวนประชากร 9 ล้านคน โดยในแผนมีการระบุว่าจะไม่มีการใช้รถยนต์ในเขตเมืองแต่จะใช้เป็นรถไฟความเร็วสูงที่ใช้เวลาเพียง 20 นาทีในการเดินทาง ผู้คนต่างตั้งข้อกังขามากมายเกี่ยวกับโครงการนี้ว่าจะทำได้จริงหรือไม่ คุณ Rafael Prieto-Curiel และ Daniel Kondor นักวิจัยจาก Complexity Science Hub Vienna ก็ได้ตั้งข้อสังเกตเช่นกันว่าการเดินทางในเมืองน่าจะลำบากมากกว่าคำที่กล่าวอ้างไว้มาก โดยทั้งสองได้เสนอให้ปรับจากเมืองเส้นตรงเป็นวง

เหตุการณ์นี้จะเรียกว่าปรากฏการณ์ธรรมชาติที่แปลกประหลาดก็ได้นะครับเมื่อนักวิทยาศาสตร์ค้นพบและยังไม่สามารถที่จะไขปริศนาเหตุการณ์นี้ได้ตามหัวข้อข่าวดังนี้ นักวิทยาศาสตร์งง! พบหลุมยักษ์ขนาดใหญ่กว่าประเทศไทย 3 เท่าใต้มหาสมุทรอินเดีย ทำให้ระดับน้ำทะเลตรงนั้นต่ำกว่ารอบ ๆ ถึง 106 เมตร แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถไขปริศนาหลุมยักษ์ประหลาดนี้ได้เลย ลองจินตนาการดูนะครับว่าหลุมยักษ์ที่ใหญ่โตมโหฬารนี้ถ้าเทียบกับประเทศไทยใหญ่กว่าประเทศไทย 3 เท่าใหญ่โตมโหฬารขนาดไหนเป็นอะไรที่น่าค้นหามากๆเลยนะครับ นักวิทยาศาสตร์งง! พบหลุมยักษ์ขนาดใหญ่กว่าประเทศไทย 3 เท่าใต้มหาสมุทรอินเดีย ทำให้ระดับน้ำทะเลตรงนั้นต่ำกว่ารอบ ๆ ถึง 106 เมตร และมันยังมีแรงดึงดูดต่ำที่สุดในโลก เป็นความผิดปกติที่ผู้เชี่ยวชาญยังหาคำตอบไม่ได้ อย่างที่เรารู้กันดี ตามกฎความโน้มถ่วง (หรือเรียกง่าย ๆ ว่าแรงดึงดูด) ของนิวตัน แรงที่วัตถุจะดึงดูดสิ่งอื่น ๆ นั่นขึ้นอยู่กับมวลและระยะห่างยกกำลังสอง พูดให้ง่ายที่สุด ยิ่งมวลมาก แรงโน้มถ่วงยิ่งมา และยิ่งใกล้กัน แรงนี้ก็จะมากขึ้นตามไปด้วย มันเป็นแรงที่โลกดูดเราไว้ไม่ให้ปลิวออกไปนอกอวกาศ เช่นเดียวกับโล

งานวิจัยเผยว่าอาหารทะเลสัตว์ทะเล 90% ที่มีอยู่บนโลกนี้กำลังจะสูญหายไปจากสภาวะโลกร้อน และ จากฝีมือของมนุษย์ที่ทำลายสภาพแวดล้อมทั้วขุดแร่ใต้ทะเลหรืออะไรต่างๆทุกสิ่งทุกอย่างมนุษย์เป็นตัวเริ่มทำลายทั้งนั้น วาระสุดท้ายมาถึงถึงตอนนั้น เกิดความอดอยาก ปากแห้งไม่มีจะกิน ก็อย่าไปโทษลมฟ้าอากาศเลยโทษตัวเองดีกว่าสภาวะโลกร้อนมนุษย์ก็เป็นต้นเหตุเหมือนกันทั้งยังจะมีภาวะโลกแปรปรวนฤดูกาลเปลี่ยนแปลง   งานวิจัยเผยว่าอาหารทะเลกว่า 90 เปอร์เซ็นต์บนโลกกำลังจะหายไปเนื่องจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ aka ภาวะโลกรวน! งานวิจัยระบุว่า ผลกระทบจากปัญหาทางสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็น ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นตามระดับอุณหภูมิโลก ความเป็นกรดที่เพิ่มขึ้นในทะเล ฝนตกไม่ตรงตามฤดู สาหร่ายบูม รวมถึงมลพิษจากสารปรอท ยาฆ่าแมลง และยาปฏิชีวนะ ล้วนทำให้แหล่งอาหารที่สำคัญของเราเริ่มลดลงแล้ว แหล่งอาหารของมนุษย์ที่จะได้รับผลกระทบนั้นหมายรวมถึงปลาทะเลกว่า 2,190 สายพันธุ์ สัตว์ชนิดมีเปลือกอย่างกุ้งและหอย พืชใต้น้ำและสาหร่ายทะเล รวมถึงปลาน้ำจืดที่เลี้ยงในฟาร์มกว่า 540 สายพันธุ์ แหล่งอาหารที่สำคัญนี้คอยหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนบนโลกกว่า 3 พ

นักวิทยาศาสตร์ยืนยันนอนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2023 โลกร้อนที่สุดเท่าที่เคย ‘อุณหภูมิเฉลี่ย’ ของโลกร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา โดยแตะ 17.01 องศาเซลเซียส (°C) มันก็คงจะจริงล่ะครับ คุณสังเกตดูไหมว่าท้องฟ้าปัจจุบันนี้มันผิดปกติมากๆเลยนะครับทั้งเมฆทั้งฟ้า อากาศที่ วิปริตวิปลาสไปหมด  รู้สึกว่าชีวิตคนคงจะอยู่ไม่ยืนยาวแล้วแหละ ต่อไปในอนาคตเนี่ยทั้ง ภาวะโลกร้อน โลกรวน ไหนจะฝุ่นพิษ pm อีกทั้งไวรัสโควิดสารพัดโรคสารพัดอย่างถาโถมเข้ามา ชีวิตมนุษย์ ก็คงจะสั้นลงสั้นลงอีกไม่นานก็คงสูญพันธุ์ก่อนโลกแตกหรืออาจจะตายไปก่อนก็ได้ เมื่อวันที่ 3 กรกฏาคม 2023 ที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า ‘อุณหภูมิเฉลี่ย’ ของโลกร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา โดยแตะ 17.01 องศาเซลเซียส (°C) เป็นครั้งแรก คาดว่าเป็นผลมาจาก ‘เอลนีโญ’ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มนุษย์ปล่อยออกมา อุณหภูมินี้เป็นตัวเลขเฉลี่ยกันทั่วโลก ไม่ใช่ตัวเลขเฉพาะพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง สำหรับคนไทยอาจมองว่า 17 °C เป็นอากาศหนาวแล้ว แต่อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกเคยอยู่ในช่วง 12 °C ถึง 17.00 °C เท่านั้น และตั้งแต่ปี 1979 ถึง

เสื้อโค้ทจากก้นบุหรี่ตัวเดียวในโลกออกแบบโดยJiawei Han อวดโฉมในงาน Paris Fashion Week 2023  เห็นแค่ชื่อในข่าวเราก็รู้สึกว่าเสื้อโค้ทตัวนี้ที่ทำจากก้นบุหรี่มันคงจะมีกลิ่นเหม็นน่าดูเหม็นไหนจะกลิ่นบุหรี่แล้วก็เหม็นจากขี้ปากขี้ฟันคนที่ดูดบุหรี่ผสมผสานไปด้วยนะครับสงสัยจะเป็นแบบนั้นแหละ กลิ่นของเสื้อโค้ทที่ทำก้นบุหรี่ตัวนี้คงจะเหม็นพิลึกน่าดู จะมีกลิ่นไหมเนี่ย? นักเรียนออกแบบในฝรั่งเศสเปลี่ยนขยะก้นบุหรี่เป็นชุดที่น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ High Fashion จนลืมไปเลยว่านี่คือก้นบุหรี่ใช้แล้ว  ชุดนี้ออกแบบโดย Jiawei Han นักศึกษาออกแบบจาก Fashion Design จากฝรั่งเศส ได้มาเดินในงาน Paris Fashion Week 2023 ที่ผ่านมาด้วย แล้วการที่มันทำจากบุหรี่เนี่ย ทำให้ชุดนี้กลายเป็นจุดสนใจเลย Han แชร์รูปเสื้อโค้ทนี้ที่ทำจากบุหรี่ในอินสตาแกรมของเขาเล่าว่า ชุดนี้ทำจากบุหรี่กว่าพันพันชิ้น เขาเอาก้นบุหรี่มาจากทั้งตามท้องถนนและจากที่เขาสูบเอง  ดูจากคอมเมนท์ก็ถือว่าผลงานนี้ประสบความสำเร็จนะ เพราะคนมาเมนท์ถึงภัยของก้นบุหรี่ต่อสิ่งแวดล้อมกันเยอะ ซึ่งในความเป็นจริง มันก็อาจส่งผลต่อเราต่อได้เพราะในก้นบุหรี่เหล่านี้ยังมีสารเคมีปน

1 กรกฎาคม ประเทศนิวซีแลนด์เริ่มแบนถุง หลอด ช้อนส้อม สติ๊กเกอร์ที่เป็นพลาสติกใครฝ่าฝืนถูกจับปรับ(ราว 2.15 ล้าน) เราต้องกลับไปมองย้อนดูต้นเหตุขยะพลาสติกที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมมันเกิดมาจากอะไรเกิดมาจากความต้องการของมนุษย์ที่อยากจะมีอะไรใช้แบบสะดวกสบายแต่ลืมไปว่าสิ่งที่ผลิตขึ้นมานั้นมันทำลายสภาพแวดล้อมมารู้ตัวมันก็เกือบสายไปเสียแล้ว สภาวะโลกร้อนก็กำลังจะตามมาอีกทั้งขยะมลพิษพลาสติกต่างๆอีกมากมายแต่ก็ยังดีที่ยังหาทางแก้ไขกัน  เว็บไซต์กระทรวงสิ่งแวดล้อมของนิวซีแลนด์ เผยนิวซีแลนด์เตรียมแบนพลาสติกระดับชาติ ระยะที่ 2 จะลดการใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ 1 ก.ค. เป็นต้นไป โดยสิ่งที่จะแบนมีถุงพลาสติก (แม้แต่ถุงใส่ผักผลไม้ในซูเปอร์มาเก็ตก็แบน), จาน ชาม ช้อนส้อมพลาสติก, ฉลากสติกเกอร์ที่ติดที่อาหาร ผลไม้ และหลอดพลาสติก แต่จะเว้นสำหรับคนพิการและคนที่จำเป็นต้องใช้ในทางการแพทย์  คำสั่งแบนพลาสติกระดับชาติ ระยะที่ 2 จะถูกนำออกจากชั้นวางสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต ห้ามขาย หรือแม้แต่ห้ามผลิตตั้งแต่วันเสาร์ 1 ก.ค. และร้านใดที่ฝ่าฝืนอาจต้องโทษปรับสูงถึง 100,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (รา

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังประสบปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มมากขึ้นและขาดการจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ก็เป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้เกิดสภาวะแวดล้อมเสียนำพาไปสู่ขยะอิเล็กทรอนิกส์และยิ่งทำให้ประเทศที่มีปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมและสาธารณาสุขจากขยะมีปัญหามากขึ้น สงสารพิศาลตะกั่วจะขยะอิเล็กทรอนิกส์ทำให้สุขภาพร่างกายของคนที่ได้รับสารอ่อนแอลงและเป็นโรคร้ายโรคภัยต่างๆอีกมากมาย ขยะอิเล็กทรอนิกส์ อีกปัญหาขยะที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเผชิญ เหตุเมืองพัฒนา และผู้คนเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น จนทำให้ความต้องการในการซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รายงานจาก United Nations University เผยว่า  ขยะอิเล็กทรอนิกส์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2021 ปีเดียวอยู่ที่ 12.3 ล้านเมตริกตัน  มากไปกว่านั้น ยังมีเรื่องของการนำเข้าขยะที่ผิดกฎหมายและการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่มีปัญหาที่ทำให้บางประเทศอย่างเช่น ไทย เวียดนาม และฟิลลิปปินส์กลายเป็นที่ทิ้งขยะสำคัญ ไม่ใช่แค่ขยะจากภายนอกประเทศ แต่ภายในประเทศเองก็ยังมีการทิ้งที่ไม่ถูกต้อง ยิ่งทำให้ประเทศที่มีปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมและสาธา

ใครจะไปคิดเหรอครับว่าตัวเห็บหมัดสามารถกัดคนตายก็ดูจากข่าวนี้สิครับสาเหตุมาจากเห็บที่มีไวรัสแสงอยู่ในตัวแล้วมากัดคนถึงกับเสียชีวิตเลยนะครับ เชื้อไวรัสออซ ซึ่งถูกตรวจพบครั้งแรกเมื่อปี 2018 จากเห็บที่จังหวัดเอฮิเมะทางตะวันตกของญี่ปุ่น ไม่ได้มีความร้ายแรงถึงแก่ชีวิต แต่จำต้องมีการศึกษาเกี่ยวกับอาการและอันตรายเพิ่มเติม โดยเชื่อว่าเชื้อไวรัสฯ แพร่ผ่านการกัดของเห็บสายพันธุ์ต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วญี่ปุ่น  เมื่อวันศุกร์ (23 มิ.ย.) กลุ่มหน่วยงานสาธารณสุขของญี่ปุ่น รายงานกรณีหญิงชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเมื่อปีที่แล้วหลังจากติดเชื้อไวรัสออซ (Oz) ทำให้เธอเป็นผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสฯ รายแรกของโลก . รายงานจากกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ และสถาบันโรคติดเชื้อแห่งชาติของญี่ปุ่น ระบุว่าหญิงวัย 70 ปีกว่า ซึ่งอาศัยอยู่ที่จังหวัดอิบารากิทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงโตเกียว ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ แต่มีโรคประจำตัวอย่างความดันโลหิตสูง หญิงชราเข้าพบแพทย์เมื่อฤดูร้อนที่แล้วด้วยอาการมีไข้ อ่อนเพลีย และเจ็บปวดข้อต่อ ซึ่งสถาบันการแพทย์วินิจฉัยว่าเธอป่วยโรคปอดอักเสบ ต่อมาหญิงชราม