News for you and news articles

ชายอินเดียกินแต่มะพร้าวอย่างเดียวตลอด 28 ปี แต่ยังแข็งแรงดี เป็นความรู้ใหม่ๆนะครับสำหรับคนที่เป็นโรคกรดไหลย้อนแล้วจะทำตามแบบชายชาวอินเดีย    บาลากริชนัน ปาลายี หลังจากที่เขาอ้างว่าตนเองไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากมะพร้าวมานานถึง 28 ปี เพื่อรักษาโรคกรดไหลย้อน กินมะพร้าวอย่างเดียวเคี้ยวกรอบๆ ถ้าใครทำได้ก็เชิญตามสบาย แต่สำหรับบางคนคงทำไม่ได้แน่นอนเพราะกินอะไรหลากหลายครับ ก็แล้วแต่ใครอยากกินอะไรก็กินเข้าไปมีกินก็กินไม่มีกินก็อด ส่วนใครมีเงินรักษาโรคก็ไปรักษาไม่มีเงินก็นอนพะงาบๆหรือหาทางวิธีรักษาตัวเองไปก็แล้วกัน บาลากริชนัน ปาลายี ชายชาวอินเดียจากรัฐเกรละของอินเดีย เพิ่งกลายเป็นข่าวพาดหัวไปทั่วโลก หลังจากที่เขาอ้างว่าตนเองไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากมะพร้าวมานานถึง 28 ปี เพื่อรักษาโรคกรดไหลย้อน ย้อนกลับไปตอนที่อายุ 35 ปี บาลากริชนัน ที่เป็นนักฟุตบอลในสโมสรท้องถิ่นได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคกรดไหลย้อน ทุกครั้งที่เขากิน อาหารนจะย้อนจากกระเพาะเข้าไปในหลอดอาหารและเขาจะอาเจียนออกมา จนถึงจุดที่เขาไร้เรี่ยวแรงแทบจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เขาพยายามควบคุมอาหารหลายอย่าง แต่มะพร้าวและน้ำมะพร้าวเป็นสิ่งเดียวที

ข่าวเมื่อ 4 ปีที่แล้วนะครับไม่รู้ว่าป่านนี้คุณยายยังจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก็เอามาเล่าสู่กันฟังนะครับเป็นความรู้ว่าคนเรานะครับจะกินอะไรอย่างเดียวก็สามารถที่จะมีชีวิตอยู่ได้โดยเฉพาะตัวอย่างคุณยายท่านนี้นะครับ แปลก..แต่จริง คุณยายวัย 92ปี กินแต่นม ไม่เคยกินข้าวมานานร่วม 25 ปี สุขภาพร่างกายแข็งแรง ผิวพรรณสดใส เต่งตึง ไม่เหี่ยวย่น หย่อนยาน ผิดธรรมชาติคนวัยเดียวกัน หู และความจำดีเยี่ยม ย้อนดูข่าวเมื่อ(19 ก.พ.2564) ที่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 13 ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง คุณยายชม รอดคืน อายุ 92 ปี หลังทราบว่าคุณยายกินแต่นมที่ทำจากพืชเป็นอาหารหลัก โดยไม่กินข้าวมายาวนานประมาณ 25 ปี โดยที่บ้านหลังดังกล่าวพบว่า คุณยายพักอาศัยอยู่ภายในบ้านอีกหลังหนึ่งที่ปลูกอยู่ใกล้กับบ้านลูกๆ  โดยคุณยายชมมีลูกทั้งหมด 9 คน เสียชีวิตไปแล้ว 3 คน เหลือ 6 คน ทั้งนี้ พบว่าคุณยายชมแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดขาว ซึ่งเป็นชุดปกติที่ชอบแต่งขาวทุกวัน สุขภาพยังแข็งแรง อารมณ์แจ่มใส แม้จะปวดแข้งปวดขาตามประสาผู้สูงอายุ ดวงตาเริ่มฝ้าฟางจนมองไม่เห็นมาได้ประมาณ 4-5 ปี  โดยขณะนี้มองเห็นเป็นเงาๆ แต่ยังสามารถเดินเข้าห้องน้ำเองได้ แต่หูยังได้ยินช

AI ไลฟ์สดขายของกำลังแย่งงานอินฟลูฯ จีน เพราะขายได้ 24 ชั่วโมง ก็เป็นธรรมดานะครับสมัยนี้ AI เข้ามาทำงานแทนที่มนุษย์มากมาย การทำงานอะไรต่างๆของ AI มีประสิทธิภาพ  แต่ก็อย่าลืมนะครับว่า AI เกิดมาจากมนุษย์สร้าง เพราะฉะนั้นมนุษย์ก็น่าจะมีอิทธิพลเหนือ AI อยู่บ้างพอสมควร แต่สุดท้ายถ้ามนุษย์ไม่พัฒนาศักยภาพของตัวเองผลตอบกลับ มนุษย์อาจจะถูก AI ยึดครองโดยเฉพาะเรื่องงานมนุษย์อาจจะตกงานมากขึ้น เพราะ AI เข้ามาทำงานแทนที่นั่นเองเรื่องนี้กำลังจะกลายเป็นเรื่องจริงแล้วนะครับโดยเฉพาะตัวอย่างนี้ เมื่อAI ไลฟ์สดขายของกำลังแย่งงานอินฟลูฯ จีน เพราะขายได้ 24 ชั่วโมง รับรองว่า AI พูดไม่มีเมื่อยปากแน่นอนพูดเรื่อยเปื่อยไปตามเรื่องตามราวไม่รู้จักจบจักสิ้นต่างกับมนุษย์เวลาไลล์สดก็จะรู้สึกมีอารมณ์ ผลสุดท้ายมนุษย์ก็จะหมดความอดทนท้อแท้ อารมณ์ต่างๆของ AI ไม่มี การทำงานตามโปรแกรมวางไว้ แต่มนุษย์มีมีอารมณ์ที่หลากหลายเพราะฉะนั้นมนุษย์แพ้ AI แน่นอนในด้านนี้ AI กำลังเข้ามาแย่งอาชีพของผู้คนในหลากหลายสาขาอาชีพ ไม่เว้นแต่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่กำลังจะโดน AI ยึดตลาดไป สิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นในประเทศจีน ประเทศแห่งการไลฟ์สดขายของออนไล

พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส หมู่บ้านญี่ปุ่นท้าให้คุณกินไอศกรีมโรยพริกฮาบาเนโร กินไหวให้ฟรี ญี่ปุ่นเขาคิดอะไรที่สร้างสรรค์และแปลกประหลาดนะครับนี่ก็เป็นการคิดหาโอกาสจากภาวะวิกฤตให้เป็นโอกาส แนวคิดนี้มันรู้สึกว่ามันขัดกับหลักขนมหวานนะครับระหว่างไอศครีมกับพริกที่เผ็ดที่สุดเอามารวมกันเพื่อเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชอบของแปลกๆให้มาเที่ยวในหมู่บ้านแห่งนี้มันจะเป็นอย่างไรและคิดอย่างนี้มันจะผิดขนาดไหนเดี๋ยวเราเข้ามาดูรายละเอียดของบทความเลยนะครับเรามีมานำเสนอทั้งรูปภาพและนะครับข้อความอ้างอิง ฮิราตะ หมู่บ้านเล็ก ๆ ในจังหวัดฟุกุชิมะของญี่ปุ่น มีชื่อเสียงในเรื่องของการท้าทายนักท่องเที่ยวให้ลองไอศกรีมโรยพริกป่นฮาบาเนโรระดับโคตรเผ็ด เป็นคุณจะกล้าลองหรือไม่ ไอศกรีมซอฟเสิร์ฟที่มีรสเผ็ดร้อนอาจเป็นสิ่งที่ฟังดูย้อนแย้งและไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ แต่มันเกิดขึ้นแล้วในหมู่บ้านฮิราตะ ในจังหวัดฟุกุชิมะ เพราะคุณจะมีโอกาสได้เจอกับไอศกรีมที่โรยด้วยผงพริกฮาบาเนโรในปริมาณที่แตกต่างกัน ไอศกรีมรสพิเศษนี้เผ็ดมากจนถึงขนาดที่คุณต้องเซ็นสัญญากับทางร้านก่อนเลยว่า หากคุณเป็นอะไรไปทางร้านจะไม่รับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น เรื่องราวของไอศก

จะสงสารรูึว่าจะเห็นใจใครดี ..สาวอังกฤษส่งข้อความง้อแฟนเก่ามากกว่า 1,000 ครั้งหลังถูกทิ้ง เรื่องนี้ไม่รู้ว่าฝ่ายผู้หญิงหรือผู้ชายที่เป็นแฟนหนุ่มผิดนะครับ แต่ยอมรับว่าผู้หญิงงอนง้อผู้ชายโดยส่งข้อความเป็นการงอนง้อคืนดีถึงพันครั้งโอ้โห...มันเป็นอะไรที่รู้สึกว่ารบกวน..ความรู้สึกของฝ่ายชายมากๆ แต่กลับกันเคยอ่านๆข่าวก็เจอ..มีแต่ข่าวว่าผู้ชายหึงหวงงอนง้อฝ่ายหญิงแต่นี่กับเป็นฝ่ายหญิงที่เป็นฝ่ายหึงหวงและงอนงอฝ่ายชายกลับกัน  ข่าวนี้มันเลยจึงเป็นข่าวที่น่าสนใจของสื่ออินเทอร์เน็ตนะครับ ก็อย่างว่าอะไรนะครับความรักความสัมพันธ์ผู้หญิงผู้ชายมันก็มีความหึงหวงด้วยกันทั้งนั้นจะว่าใครก็ไม่ได้นะครับถ้ามันหลงรักหัวปักหัวป่ำ กันแล้วมันก็อาจลืมไม่ลงแน่นอน หญิงชาวอังกฤษรายหนึ่งถูกศาลสั่งห้ามติดต่อทุกช่องทางกับอดีตแฟนเก่าของเธอ หลังจากที่เธอส่งข้อความไปหาเขามากถึง 150 ข้อความต่อวัน เพื่อพยายามรื้อฟื้นความสัมพันธ์ให้กลับมาเหมือนเดิม มิเชล เฟลตัน สาววัย 28 ปี เพิ่งถูกสั่งห้ามไม่ให้ติดต่อกับ ไรอัน ฮาร์ลีย์ อดีตแฟนเก่าเป็นเวลา 18 เดือน และถูกตัดสินให้ทำงานบริการชุมชนเป็นเวลา 18 เดือน รวมถึงเข้าทำกิจกรรมบำบัดเป็นเวลา