News for you and news articles

ฉาวปฑี ความเชื่อ ต้องห้ามสตรีมีประจำเดือน ห้ามไม่ให้สตรีที่กำลังมีประจำเดือนเข้าร่วมในกิจกรรมต่างๆ ฉาวปฑี (เนปาล: छाउपडी; Chhaupadi, [t͡sʰau̯pʌɽi]) เป็นรูปแบบของเรื่องต้องห้ามเกี่ยวกับสตรีมีประจำเดือน ซึ่งห้ามไม่ให้สตรีที่กำลังมีประจำเดือนเข้าร่วมในกิจกรรมธรรมดาทั่วไปของครอบครัว เนื่องจากถือว่ามีความ "ไม่บริสุทธิ์" ความเชื่อนี้มีปฏิบัติทั่วไปในประเทศเนปาลโดยอาจมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปตามท้องถิ่น ขณะฉาวปฑี  สตรีจะไม่สามารถเข้าบ้านได้และต้องไปอาศัยในเพิงวัวควาย หรือในที่อยู่อาศัยพิเศษที่สร้างขึ้น เรียกว่า กระท่อมประจำเดือน จนกว่าจะหมดประจำเดือน การคลอดบุตรในเนปาลก็จบลงที่ต้องขังตนเองในกระท่อมเช่นนี้เหมือนกัน นอกจากนี้ขณะมีประจำเดือน สตรียังห้ามมีปฏิสัมพันธ์กับคนในชุมชน  รวมถึงยังห้ามเข้าร่วมกิจกรรมใด ๆ ของครอบครัว ชื่ออื่น ๆ ของฉาวปฑี เช่น ‘chhue’ หรือ ‘bahirhunu’ ในฑเฑลธูระ, ไพตาฑี และ ฑรจุละ, ‘chhaupadi’ ในอฉาม และ ‘chaukulla’ หรือ ‘chaukudi’ ในพัชฌัง คำว่า "ฉาวปฑี" มีที่มาจากเนปาลตะวันตก ซึ่งมาจากความเชื่อว่าประจำเดือนทำให้บุคคลนั้นไม่บริสุทธิ์เป็นเวลาชั่วคราว  ซ

ประเด็นร้อน! ฟิลิปปินส์พิจารณาบังคับนศ.มหาวิทยาลัยฝึกวิชาทหาร ขณะนี้มีนักศึกษาจำนวนหนึ่งเป็นอาสาสมัครเรียนและฝึกวิชาทหารในฟิลิปปินส์ แต่รัฐสภาของประเทศกำลังพิจารณาให้การฝึกนี้เป็นกิจกรรมบังคับสำหรับทั้งชายและหญิง ประเด็นนี้สร้างการถกเถียงอย่างกว้างขวางในสังคม และความเเตกต่างทางความคิดเห็นถูกสะท้อนในรั้วมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เช่นกัน รูธฮานนาห์ ราบาโนส จากมหาวิทยาลัย PLMar กล่าวว่า เธอเห็นด้วยกับการบังคับฝึกทหารในฟิลิปปินส์ อย่างไรก็ตาม ลอร์เรน คาสทริลเลียน จากมหาวิทยาลัย University of the Philippines บอกกับวีโอเอว่า เธอไม่เห็นด้วย เพราะสิ่งสำคัญสำหรับนักศึกษาคือทางเลือกต่าง ๆ ที่พวกเขาควรจะมี ในฟิลิปปินส์ ก่อนที่ทุกคนจะจบปริญญาตรี นักศึกษามีทางเลือกที่จะฝึกทหารสัปดาห์ละครั้ง หรือทำงานอาสาสมัครสอนหนังสือเด็กในเขตทุรกันดาร ไอรา ซานโตส จากมหาวิทยาลัย University of the Philippines กล่าวว่า นักศึกษาแต่ละคนมีทักษะที่ต่างกัน และทำประโยชน์ให้กับประเทศในทางของตนเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องฝึกทหารทุกคน กฎหมายที่กำลังเป็นหัวข้ออภิปรายในสภาฟิลิปปินส์ ต้องการให้การฝึกทหารเป็นกิจกรรมบังคับแต่ใช้เวลาเพียงบางช่

ปืนอัจฉริยะ' ลั่นไกผ่านระบบจดจำใบหน้า เริ่มขายแล้วในอเมริกา บริษัท ไบโอไฟร์ เทค (Biofire Tech) ในรัฐโคโลราโด สหรัฐฯ เริ่มเปิดรับคำสั่งซื้อ 'ปืนอัจฉริยะ' ซึ่งทำงานด้วยระบบจดจำใบหน้า ถือเป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่นำมาใช้กับอาวุธปืนเพื่อให้เจ้าของปืนหรือผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่สามารถลั่นไกได้ ไค โคลเอฟเฟอร์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท ไบโอไฟร์ เทค กล่าวกับรอยเตอร์ว่าซอฟต์แวร์และระบบอิเลกทรอนิกส์ของปืนรุ่นใหม่นี้ผ่านการทดสอบอย่างสมบูรณ์แล้ว โดยเป้าหมายคือการผลิตสินค้าที่เชื่อถือได้ในด้านความปลอดภัย ปืนของไบโอไฟร์นี้นอกจากใช้ระบบจดจำใบหน้าในการปลดล็อคแล้ว ยังมีเครื่องอ่านลายนิ้วมือที่ถูกออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงการที่ผู้อื่นเอาไปใช้ หรือเด็ก ๆ เอาปืนไปเล่นโดยไม่ตั้งใจ หรือกรณีที่คนร้ายขโมยปืนของคนอื่นไปใช้ ทางบริษัทบอกว่า ปืนอัจฉริยะกระบอกแรกนี้จะสามารถส่งส่งถึงมือลูกค้าที่สั่งซื้อล่วงหน้าได้ภายในช่วงปลายปีนี้ โดยนีสนนราคาที่ 1,499 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญอาวุธปืนบางคนยังไม่มั่นใจในระบบจดจำใบหน้าของปืนรุ่นใหม่นี้ โดยกังวลว่าระบบดังกล่าวอาจไม่ทำงานในช่วงเวลาคับขันที่ต้องการก

นี่คือนักเพาะกายสาวสวย..ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านักเพาะกายสาวสวยคนนี้จะมีอยู่จริง ผู้คนไม่อยากจะเชื่อเลยว่านักเพาะกายสาวสวยคนนี้จะมีอยู่จริง วลาดิสลาวา กาลากัน นักเพาะกายและนางแบบฟิตเนสชาวรัสเซีย ได้รับการขนานนามว่า 'เคนดัล เจนเนอร์ติดสเตียรอยด์' และ 'ชีฮัลค์ในชีวิตจริง' เนื่องจากใบหน้าที่สวยงามและร่างกายที่กำยำล่ำสันของเธอ คำพูดเก่า ๆ เช่น 'เห็นจะเชื่อ' หรือ 'ฉันจะเชื่อเมื่อฉันเห็น' แสดงความเชื่ออย่างสมบูรณ์แบบว่าคนเราต้องเห็นบางสิ่งก่อนที่จะเชื่อว่ามันเป็นความจริง แต่ก่อนเครื่องมือดิจิทัลขั้นสูงจะทำให้เราไม่เชื่อสายตาตัวเองอีกต่อไป ในยุคของผู้ประกาศข่าวที่ขับเคลื่อนด้วย AIและผู้ชายที่ปลอมตัวเป็นสาวสวย นั้นมาจากความช่วยเหลือของแอพโทรศัพท์เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อทุกสิ่งที่คุณเห็นในทุกวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันดูดีเกินจริง แต่ในกรณีนี้ Vladislava Galagan นางแบบฟิตเนสวัย 27 ปีผู้โด่งดังบนโซเชียลมีเดียด้วยคือ 'ส่วนผสมที่ลงตัว' ของใบหน้าที่ดูเป็นผู้หญิงที่น่าดึงดูดใจและร่างกายที่มีกล้ามเนื้อที่น่าประทับใจ ในขณะที่มีแฟน คลับหลายแสนคน Galagan

รปภ.ยอมสละตัวเองช่วยหญิงฆ่าตัวตาย แต่โดนครอบครัว หญิงสาว วิจารณ์..รปภ.  โดนให้ออกจากงาน และก็พิการนอนติดเตียง รปภ.หนุ่มที่ได้รับบาดเจ็บหลายแห่งขณะพยายามช่วยจับหญิงสาวที่กระโดดลงมาจากตึกเพื่อจะฆ่าตัวตาย สุดท้ายรปภ.หนุ่ม ลงเอยด้วยการตกงานและถูกวิจารณ์จากครอบครัวของหญิงสาว อย่างหนัก Qu Yan วัย 28 ปีทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่โรงพยาบาลในมณฑล Jilin ของจีน ในปี 2022 เมื่อชีวิตของเขาพลิกผันอย่างน่าเศร้า เขาปฏิบัติหน้าที่ เมื่อได้รับรายงานว่ามีเด็กสาวคนหนึ่งปีนขึ้นไปบนระเบียงชั้นสี่และขู่ว่าจะกระโดดลงมาให้ตาย  Qu Yan เขารีบวิ่งออกไปข้างนอกและเห็นหญิงสาวกำลังเตรียมปลิดชีวิตตัวเอง ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังมาไม่ถึง และพนักงานโรงพยาบาลจำนวนหนึ่งกำลังตะเกียกตะกายเพื่อติดตาข่ายกันตาหูเหลือกอย่างรีบเร่งเพื่อจะช่วยชีวิตเด็กสาวคนนั้นที่กำลังจะกระโดดตึกตาย เพื่อจับผู้หญิงคนนั้นเมื่อเธอกระโดด พวกเขาไม่เคยมีโอกาสทำเช่นนั้น และแล้วเมื่อผู้หญิงคนนั้นกระโดดลงมาจากระเบียงก่อนที่พวกเขาจะพร้อม ดังนั้น Qu Yan จึงตัดสินใจตอบสนองโดยสัญชาตญาณ วิ่งไปข้างหน้าและพยายามจับผู้หญิงคนนั้นไว้ในอ้อ

'บันไดที่ขยับไม่ได้' ซึ่งไม่ขยับมา 266 ปี เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางศาสนา ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของศาสนาคริสต์ มีบันไดที่ตั้งวางอยู่ตรงตำแหน่งเดิมมานานหลายศตวรรษแล้ว โดยไม่ได้ขยับเขยื้อนมานานถึง 266 ปี เป็นบันไดที่ค่อนข้างธรรมดาๆ แต่มันมีชื่อเสียงเนื่องจากมีกฎเฉพาะที่ตกลงกันเมื่อหลายร้อยปีก่อนเพื่อหยุดความขัดแย้งทางศาสนาและวัฒนธรรมต่างๆ ที่ต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงสถานที่สำคัญทางศาสนาต่างๆ ในส่วนนี้ของโลก กฎที่พวกเขาตั้งขึ้นได้กลายเป็นที่รู้จักกันในชื่อ 'สภาพที่เป็นอยู่'  ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วกลายเป็นวิธีการกลอุบายเพื่อปกป้องสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้สำหรับทุกๆศาสนาโดยไม่ก่อให้เกิดข้อโต้แย้งใดๆ ที่โบสถ์แห่งหนึ่งไกล้ๆสุสานศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งบางคนเชื่อว่าพระเยซูคริสต์สิ้นพระชนม์และฟื้นคืนพระชนม์  ซึ่งรวมถึงบันไดที่ถูกทิ้งไว้ที่นั่นในช่วงทศวรรษที่ 1700 ซึ่งปัจจุบันไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เพราะต้องปล่อยให้สิ่งต่าง ๆ เหมือนเดิมทุกประการ นี่คือบันได  ศาสนจักรมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อศาสนาคริสต์ และผู้คนต่างเดินทางมาแสวงบุญกันตั้งแต่ศตวรรษที่สี่ อย่างไรก

ปริศนายุงที่ถูกตบติดกำแพง และเลือดยุงนำไปสู่การจับอาชญากรลึกลับของจีน นี่อาจจะเหมือนกับนิยายลึกลับอาชญากรรมสืบสวนสอบสวนของตำรวจเลยนะครับเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง และ มันคือคดีที่เกิดขึ้นจริง ๆ ในประเทศจีน เมื่อเจ้าหน้าที่ในเมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยนทางตะวันออกของจีน หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้การวิเคราะห์คราบเลือดของยุงที่ถูกตบติดกำแพง นำไปสู่การจับหัวขโมยลึกลับในที่สุด ตำรวจท้องที่ของจีนสามารถจับหัวขโมยได้จากการวิเคราะห์ DNA ของคราบเลือดที่ยุงกัดบนผนังในอพาร์ตเมนต์ที่ถูกขโมย ขณะสืบสวนเหตุลักทรัพย์ในบ้านพักในเมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันออกของจีน ตำรวจอนุมานว่าผู้ต้องสงสัยอาจพักค้างคืนหลังจากพบเส้นก๋วยเตี๋ยวและเปลือกไข่เหลืออยู่ในครัว แผ่นยาจุดกันยุง และคนตาย ยุงและคราบเลือดสองจุดบนผนัง จากการเก็บคราบเลือดและการวิเคราะห์ดีเอ็นเอ  ตำรวจยืนยันว่าพวกเขาเป็นผู้ต้องสงสัยนามสกุลชัย ซึ่งมีประวัติอาชญากรรม ชัยถูกจับกุม 19 วันหลังจากเกิดการลักทรัพย์  ตำรวจสามารถไขคดีลักทรัพย์อีก 3 คดีที่เชื่อมโยงกับชายคนเดียวกันได้ในพริบตาเดียว ในการสืบสวนคดีจากเลือดยุงนี้ จนสามารถสืบจับตัวอาชญากรที่ฆ่าคนตายได้ เ