บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มกราคม, 2020

Nepenthe คือยาตามตำนานของชาวกรีกโบราณและโรมัน

รูปภาพ
Nepenthe สิ่งที่เราได้รู้สึกทึ่งทุกครั้งที่พูดถึงความซับซ้อมภูมิปัญญาของชาวกรีกโบราณและโรมันก็คือ Nepenthe คือยาตามตำนานวรรณคดีมหากาพย์โอดิสซีของโฮเมอร์ และในตำนานเทพเจ้ากรีก เล่าว่าชาวกรีกสามารถทำยาเสพติดได้ โดยใช้ส่วนผสมอย่างหนึ่งทำให้เป็นยาที่ สามารถไล่ความเศร้าโศกหรือหลายคนเรียกว่า "ยาแห่งการความหลงลืม และชื่อตัวยาดังกล่าวได้ถูกนำมาตั้งเป็นชื่อของหม้อข้าวหม้อแกงลิง (ตามภาษา กรีกที่ Nepenthes แปลว่า เหยือกเหล้าที่ใช้เพื่อลืมความเศร้าเสียใจ)  นอกจากนี้มันยังมีฤทธิ์พอๆ กับฝิ่นและมีมากกว่าด้วยซ้ำ โดยกล่าวแต่อย่างไรก็ตามจนถึงปัจจุบันไม่รู้ว่ายาเสพย์ติดที่ว่ามีอยู่จริง หรือไม่ และส่วนผสมของมันยังคงลึกลับ รู้แต่ว่าตัวยาดังกล่าวถูกใช้แพร่หลายในกรีกโบราณ  โดยผ่านทางอียิปต์ สันนิษฐานว่าน่าจะมีส่วนผสมของไม้วอร์ทวูด ซึ่งเป็นยารักษาทุกโรคในเวลาสั้น และจากการดูตามอาการที่ปรากฏในวรรณคดีหลังทานยานี้เข้าไป น่าจะเป็นพวกพืชจำพวกมะเขือพวงซึ่งมีฤทธิ์ทำให้ความทรงจำเสื่อมและอดีตนั้น มีฤทธิ์ร้ายแรงกว่าฝิ่นถูกนำมาใช้แพร่หลายทางการแพทย์และทันตกรรม

The Telharmonium เป็นเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องแรกของโลก

รูปภาพ
The Telharmonium  เป็นเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องแรกของโลก โดยเป็นเครื่องดนตรีที่มีขนาดใหญ่ สร้างขึ้นโดย Thaddeus Cahill ในปี ค.ศ. 1897 ซึ่งในช่วงเวลานั้นเครื่องดนตรีเครื่องนี้ถือว่าใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา โดยใช้สัญญาไฟฟ้าส่งมายังสายแล้วสังเคราะห์เสียงจนเป็นเสียงดนตรีผ่านยัง ลำโพง มันถูกสร้างมาสามรุ่น หนึ่งในนั้นมีน้ำหนักกว่า 200 ตันและใช้พื้นที่มากประมาณหนึ่งห้องถึงจะเก็บมันอยู่  โดยส่วนประกอบคือแป้มพิมพ์และแป้นเหยียบซึ่งผู้ใช้สามารถกดเพื่อให้เกิด เสียง เครื่องดนตรีนี้ ถูกนำแสดงในที่สาธารณะครั้งแรกแล้วพบว่ามีหลายคนชอบมันเพราะ ได้ยินชัดเจนและแปลกใหม่ในเวลานั้นเพราะเครื่องดนตรีสามารถทำเสียงได้ หลายอย่าง ใช่เครื่องดนตรีประเภทเป่าอย่าง ขลุ่ย บาสซูน คลาริเน็ต และยังมีเชลโล่      หากแต่เครื่องดนตรีนี้ก็ไม่ได้ถูกพัฒนาหรือสารต่อจนถึงการแก่อนิจกรรม ในที่ สุด  สาเหตุเนื่องจากใช้พลังงานไฟฟ้ามากและน้ำหนักมหาศาล อีกทั้งมันยังรบกวนสัญญาโทรศัพท์ ทำให้เครื่องดังกล่าวยุติลงในปี 1914 และผู้สร้างก็ตาย (ในปี 1934) เครื่องดนตรีที่เหลือถูกเก็บนานกว

ได้ นักวิทยาศาสตร์สร้างเสียงของมัมมี่อายุ 3 พันปี โดยจำลองจากตอนที่มีชีวิตอยู่

รูปภาพ
นักวิทยาศาสตร์สามารถทำให้มัมมี่เนสยามุนที่ตายไปแล้วกว่า 3,000 ปี กลับมา"พูด"ได้อีกครั้ง โดยการพิมพ์กล่องเสียงจากซากมัมมี่ แม้ว่าเสียงที่นักวิจัยสร้างขึ้นได้จะมีเพียงพยางค์เดียวคือ “บีห์” (beh) แต่นี่คือเสียงที่ไม่มีใครเคยได้ยินมานานกว่า 3,000 ปี  ถ้าใครเป็นแฟนหนังมัมมี่สยองขวัญ คงคุ้นชินกับเสียง “กรร” หรือ “แฮ่” (ลองนึกเสียงตามนะ) ที่เหล่ามัมมี่เปล่งออกมาได้เป็นอย่างดี แต่เสียงของมัมมี่เป็นอย่างนั้นจริงๆ เหรอ? ความสงสัยนี้ผลักให้นักวิทยาศาสตร์จำลองเสียงของมัมมี่ ในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ขึ้นมา โดยอาศัยเทคโนโลยี 3D เข้ามาช่วย มัมมี่ที่ถูกทดลอง คือ เนสยามุน (Nesyamun) นักบวชที่มีชีวิตอยู่ในสมัยฟาโรห์รามเสสที่ 11 ผู้ครองราชย์เมื่อประมาณ 3,000 ปีก่อน โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษใช้เทคโนโลยี 3D มาช่วยในการทดลอง เพื่อสร้างเสียงของเนสยามุนที่ถูกทำให้กลายเป็นมัมมี่เมื่อ 3,000 ปีก่อน จนสร้างเสียงของมัมมี่ออกมา และเป็นครั้งแรกที่สามารถได้ยินเสียงของเนสยามุน นับตั้งแต่เขาเสียชีวิตไป สาเหตุที่เนสยามุนเป็นผู้ถูกเลือกมาทดลอง เพราะเขาเป็นนักบวชที่ใช้เสียงในการประกอบพิธีท

ยลโฉมฟอสซิลลูกงูที่พบในอำพัน

รูปภาพ
ยลโฉมฟอสซิลลูกงูที่พบในอำพัน เหมืองบริเวณหุบเขาโอคานากัน ในรัฐคะฉิ่น ทางตอนเหนือ ของเมียนมา นอกจากจะเป็นแหล่งผลิตแร่สำคัญแล้ว ช่วงหลายปีมานี้สถานที่ดังกล่าวยังมีความสำคัญในฐานะแหล่งข้อมูลใหม่ทางบรรพชีวินวิทยาอีกด้วย มีฟอสซิลสัตว์โบราณมากมายที่ถูกค้นพบและเก็บรักษาไว้อย่างดีในก้อนอำพัน ไม่ว่าจะเป็นหมัด, แมลง, กบ ไปจนถึงหางไดโนเสาร์ และฟอสซิลของลูกงูโบราณตัวนี้คือหนึ่งในฟอสซิลชิ้นล่าสุด นับเป็นครั้งแรกที่มีการค้นพบฟอสซิลลูกงูในก้อนอำพัน จากการตรวจสอบลูกงูตัวนี้มีชีวิตอยู่เมื่อ 99 ล้านปีก่อน มันมีความยาวเพียงแค่ 2 นิ้วเท่านั้น มีกระดูกสันหลังรวม 97 ข้อ นักบรรพชีวินวิทยาสันนิษฐานว่ามันเป็นลูกงูที่เพิ่งฟักไม่นาน และในบริเวณไม่ไกลกันนัก ทีมนักวิทยาศาสตร์ยังพบเกล็ดและผิวหนังของงูที่ถูกฝังอยู่ในอำพัน ซึ่งเชื่อกันว่าน่าจะเป็นของงูสายพันธุ์นี้ที่โตเต็มวัยแล้ว  ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะมีการค้นพบอะไรใหม่ๆ จากเหมืองมหัศจรรย์นี้อีก…

พบฟอสซิลทวด กบโบราณ ในอำพัน

รูปภาพ
ฟอสซิลทวด กบโบราณ ในอำพัน มากกว่าหนึ่งในสามของสายพันธุ์กบ และคางคกจำนวน 7,000 สายพันธุ์ พบได้ในป่าฝนเขตร้อนทั่วโลก ทว่าฟอสซิลของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกเหล่านี้ต่างออกไป เนื่องจากมันมีช่วงชีวิตในยุคสมัยที่สภาพแวดล้อมแบบป่าฝนเขตร้อนเพิ่งจะถือกำเนิดขึ้นไม่นาน ส่งผลให้บรรดานักบรรพชีวินวิทยากำลังขบคิดเกี่ยวกับปริศนาวิวัฒนาการในช่วงแรกๆ ของกบโบราณเหล่านี้ ขณะนี้ก้อนอำพันจากยุคครีเตเชียสได้เผยให้เห็นซากของกบโบราณจากยุคไดโนเสาร์จำนวนสี่ตัว พวกมันคือฟอสซิลกบโบราณที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยพบมา และชิ้นส่วนที่ถูกกักเก็บไว้มีความสมบูรณ์มากพอที่จะวิเคราะห์ได้ว่า พวกมันคือสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่ ที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Electrorana limoae อำพันจากเมียนมาที่ภายในบรรจุฟอสซิลของกบจากยุคไดโนเสาร์ ภาพถ่ายโดย Chen Hai-Ying “มันน่าตื้นตันมากเลยครับที่ฟอสซิลเล็กๆ เหล่านี้ยังคงอยู่รอดมาได้” David Blackburn นักบรรพชีวินวิทยา จากพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา Gainesville ในรัฐฟลอริดากล่าว “เดิมเรามีฟอสซิลที่สมบูรณ์ของกบน้อยมาก และเจ้าสายพันธุ์ Electrorana เป็นอะไรที่หายากมาก” ในช่วงชีวิตของมัน กบเห

จิ๋วแต่แจ๋ว! นักวิทยาศาสตร์พบกิ้งก่าขนาดเล็กจิ๋วแต่มีพลังลิ้นเร็วและแรง

รูปภาพ
จิ๋วแต่แจ๋ว! นักวิทยาศาสตร์พบกิ้งก่าขนาดเล็กจิ๋วแต่มีพลังลิ้นเร็วและแรงลักษณะพิเศษดังกล่าวเป็นข้อได้เปรียบสำคัญที่ช่วยให้สัตว์ขนาดเล็กอยู่รอดได้ นักวิทยาศาสตร์ขอมหาวิทยาลัย Brown รายงานในวารสาร Scientific Reports ว่าได้พบกิ้งก่าขนาดเล็กจิ๋วที่สามารถวางบนนิ่วโป้งได้ แต่มีพลังลิ้นที่เร็วและแรงเป็นพิเศษ คือสามารถพุ่งลิ้นออกไปเพื่อล่าเหยื่อได้ในอัตราเร่งจาก 0 ถึง 97 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียงแค่ 1/100 ของวินาทีเท่านั้น นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า กิ้งก่าพันธุ์เล็กนี้นับว่ามีกล้ามเนื้อและลิ้นซึ่งทรงพลังที่สุดในบรรดาสัตว์เลื้อยคลาน นก หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ เมื่อเทียบกับขนาดและน้ำหนักตัว โดยจะเป็นรองเฉพาะแค่สัตว์รูปร่างคล้ายกิ้งก่าแต่ตัวใหญ่กว่า คือ Salamander เท่านั้น  นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่าตามทฤษฎีวิวัฒนาการนั้น ลักษณะพิเศษดังกล่าวนับเป็นข้อได้เปรียบสำคัญ ที่ช่วยให้สัตว์ขนาดเล็กสามารถล่าเหยื่อและอยู่รอดได้ภายใต้สภาพแวดล้อมซึ่งมีการแข่งขันสูง  (ชมความเร็วของลิ้นกิ้งก่า ชนิดนี้จากเว็บไซต์ของ  National Geographic)

การค้นพบใหม่ ไดโนเสาร์เป็ด ที่แปลกประหลาดซะจนไม่อยากเชื่อว่ามันเคยมีอยู่จริง

รูปภาพ
เมื่อเราได้ยินคำว่า "ไดโนเสาร์" ภาพที่ผุดขึ้นมาในสมองคือ ภาพของไดโนเสาร์ตัวโตๆ ที่มีนิสัยดุร้ายอย่าง ไทแรนโนซอรัส หรือไดโนเสาร์ตัวโตๆ แต่ต้องบอกว่า ไม่ใช่ไดโนเสาร์ทุกสายพันธุ์จะมีลักษณะเป็นกิ้งก่าขนาดยักษ์ไปเสียทั้งหมดนะ และในความเป็นจริง ไดโนเสาร์บางสายพันธุ์อาจมีรูปร่างหน้าตาประหลาดเสียจนไม่อยากจะเชื่อว่ามันเคยมีอยู่จริงๆ บนโลกใบนี้  และการค้นพบครั้งใหม่ ได้นำเราไปรู้จักกับไดโนเสาร์รูปร่างหน้าตาคล้ายเป็ด ที่มีชื่อค่อนข้างจะยาวและประหลาดว่า Halszkaraptor escuilliei มีการประเมินว่า เจ้าไดโนเสาร์เป็ดน่าจะมีชีวิตอยู่ในช่วงราวๆ 75 ล้านปีก่อน ในบริเวณที่เป็นประเทศมองโกเลียในปัจจุบัน ดูๆ ไปแล้วมันมีลักษณะของความเป็นลูกผสมระหว่างเป็ดและหงส์ แต่มาพร้อมกรงเล็บที่แหลมคมบนเท้าทั้ง 2 ข้าง และภายในจะงอยปากก็มีฟันอันแหลมคม ทำให้มันมีลักษณะของความเป็นสัตว์นักล่าที่ดุร้าย และเชื่อเถอะว่าไม่มีใครอยากเจอกับมันแบบตัวต่อตัวอย่างแน่นอน   และมันถูกเรียกชื่ออย่างสั้นๆ ว่า “Halszka” และในขณะที่นักบรรพชีวินวิทยา (Paleontologists วิชาที่ศึกษาลักษณะรูปร่าง ลักษณะความเป็นอยู่ และประวั

นักโบราณคดีขุดพบวัตถุคล้าย iPhone อยู่กับโครงกระดูก อายุกว่า 2,100 ปี

รูปภาพ
นักโบราณคดีขุดพบวัตถุคล้าย iPhone อยู่กับโครงกระดูก อายุกว่า 2,100 ปี นักโบราณคดีได้ทำการสำรวจหลุมฝังศพ ‘แอตแลนติส รัสเซีย’ ซึ่งอยู่ในสาธารณรัฐตูวา และเป็นพื้นที่ใหม่ที่ถูกค้นพบเมื่อไม่นานมานี้... เนื่องจากระดับน้ำในบริเวณนั้นลดลง และจากการขุดลงไปในหลุมฝังศพโบราณ ก็พบกับโครงกระดูก และวัตถุปริศนาที่มีลักษณะคล้าย iPhone Pavel Leus หนึ่งในทีมสำรวจชุดนี้ ให้รายละเอียดว่า พบโครงกระดูกของผู้หญิง และตั้งชื่อให้ว่า Natasha คาดว่าเธอมีอายุอยู่ในช่วง 2,137 ปีที่แล้ว  เนื่องจากเครื่องประดับที่ขุดพบพร้อมกับ Natasha ผลิตขึ้นในช่วงนั้นนักโบราณคดียังพบหัวเข็มขัดที่ดูทันสมัย มีรูปทรงสี่เหลี่ยมพื้นผ้าสีดำ กว้าง 9 เซนติเมตร ยาว 18 เซนติเมตร  มีลักษณะแบน จึงดูคล้ายกับ iPhone และถูกประดับด้วยอัญมณีหลายชนิด ทั้งพลอย, เทอร์ควอยส์, คาร์เนเลียน และ หอยมุก..

ดอกไม้ซากศพส่งกลิ่นดึงดูดผู้สนใจในนครฮุสตัน

รูปภาพ
ดอกไม้พันธุ์หายากจากอินโดนีเซียกำลังบานส่งกลิ่นเหม็น ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ธรรมชาติในนครฮิวส์ตั้นดึงดูดความสนใจของทั้งแมลงและมนุษย์ ขณะนี้ผู้คนจำนวนมากกำลังมุ่งหน้าไปยังพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ธรรมชาติในนครฮิวส์ตั้น รัฐเท็กซัส เพื่อให้ประจักษ์กับตา และจมูก ว่าดอกไม้พันธ์หายากชนิดหนึ่งจากเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย ที่ว่ากันว่ามีกลิ่นเหม็นตลบอบอวลจนได้ชื่อว่าดอกไม้ซากศพนั้น จะมีรูปร่างลักษณะแปลกประหลาดอย่างไร และที่ว่าเหม็นนั้นเหม็นแค่ไหน โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 29 เท่านั้น ที่ดอกไม้ชนิดนี้บานสะพรั่งในอเมริกา 👉ผู้ที่เข้ามาชมดอกไม้ประหลาดพันธุ์หายากที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ธรรมชาติในนครฮิวส์ตั้น รัฐเท็กซัส ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ดอกไม้ซากศพหรือที่มีชื่อเรียกทางการว่า Amorphophallas Titanum นี้ มีกลิ่นเหม็นสุดทนจริงๆ บางคนบอกว่ากลิ่นเหมือนกระเทียม บางคนบอกเหมือนเนื้อเน่า และที่ร้ายยิ่งกว่านั้น บางคนนึกไปถึงกลิ่นถุงเท้าสกปรกๆของสามี 👉ดอกไม้ซากศพซึ่งเจ้าหน้าที่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เรียกกันว่า Lois เป็นดอกไม้ขนาดใหญ่มีกลีบด้านนอกเป็นสีเขียว ด้านในเป็นสีแดงอมม่วง

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่ มินิไตรเซอราท็อปส์ในประเทศจีน

รูปภาพ
นักวิชาการด้านไดโนเสาร์ระบุชนิดของไดโนเสาร์พันธุ์เล็กขนาดตัวเท่าสุนัข cocker spaniel ว่าเป็นญาติกับไดโนเสาร์พันธุ์ไตรเซอราท็อปส์ (Triceratops) ซึ่งตัวใหญ่และมีจุดเด่นจากเขาสามเขา หลังจากศึกษาซากฟอสซิลในประเทศจีน  นักวิทยาศาสตร์ให้ชื่อเล่นไดโนเสาร์นี้ว่า “มินิไตรเซอราท็อปส์”  และชื่อวิทยาศาสตร์ว่า “ฮัวเลียนเซอราท็อปส์” (Hualianceratops) ไตรเซอราท็อปส์จิ๋วที่เพิ่งถูกค้นพบนี้เป็นไดโนเสาร์กินพืชเช่นกัน และมีชีวิตอยู่บนโลกเมื่อ 160 ล้านปีก่อน หรือราวๆ 100 ล้านปีก่อนไตรเซอราท็อปส์ขนาดใหญ่  นักวิทยาศาสตร์ Catherine Foster จากมหาวิทยาลัย George Washington ที่กรุงวอชิงตัน ที่ช่วยระบุพันธุ์ของไตรเซอราท็อปส์จิ๋ว กล่าวว่าญาติขนาดมินิของไตรเซอราท็อปส์นี้ไม่มีเขา เธอบอกว่าแม้ว่าตัวจะเล็กกว่าไตรเซอราท็อปส์มาก “ฮัวเลียนเซอราท็อปส์” มีศีรษะใหญ่เมื่อเทียบกับสัดส่วนของตัว ซึ่งคล้ายกับไตรเซอราท็อปส์ ก่อนหน้านี้ราว 13 ปี ผู้เชี่ยวชาญพบซากฟอสซิลของไดโนเสาร์ที่เป็นญาติกับ ไตรเซอราท็อปส์ อีกชนิดหนึ่งเช่นกัน แต่ในตอนนั้นยังไม่ทราบแน่ชัดถึงสายพันธุ์ที่เกี่ยวโยงกัน และเมื่อมี

การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ อาจทำให้กรุงเทพมหานครจมน้ำได้

รูปภาพ
กรุงเทพมหานคร ประสพอุทกภัยอยู่บ่อยๆ การวางแผนเขตนาครไม่ดี และการปล่อยให้เขตกรุงเทพมหานครขยายออกไป โดยขาดความระมัดระวังทำให้ปัญหาดังกล่าวหนักหนายิ่งขึ้น ผู้สื่อข่าว VOA รอน คอร์เบน          (Ron Corben) รายงานจากกรุงเทพมหานครว่า ในท้ายที่สุดแล้ว การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ อาจทำให้กรุงเทพมหานครจมน้ำได้ พายุหน้าฝนที่มาล่ากว่าปกติ ทำให้ฝนตกหนักทั่วเขตกรุงเทพมหานคร ทำให้การจราจรติดขัด และเกิดน้ำท่วมตามพื้นที่ลุ่มน้ำอย่างรวดเร็ว ตามปรกติ น้ำจะระบายหมดไปภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องสภาพภูมิอากาศ และนักวางผังเมืองเตือนว่าอุทกภัยในอนาคต อาจก่อให้เดความเสียหายที่ยั่งยืน เนื่องจากการที่ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 👉กลุ่มอนุรักษ์ WWF เตือนว่า กรุงเทพมหานคร กรุงดัคคะ กรุงมนิลา นครกัลกัตตา กรุงพนมเปญ กรุงโฮจิมินห์ และนครเซี่ยงไฮ้นั้นต่างล่อแหลม ต่อการประสพอุทกภัยครั้งมโหฬาร ส่วนคณะกรรมการระหว่างรัฐบาล เกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า กรุงเทพมหานครเป็นแห่งหนึ่งในบรรดานครที่สำคัญ 20 แห่ง ที่เสี่ยงต่อการจมน้ำเนื่องจากการที่ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นเรื่อยๆ น

คนผอมแห้งแรงน้อยตอบสนองต่อเสียงต่างๆ ในระยะประชิด ได้ดีกว่าคนตัวใหญ่จริงหรือ

รูปภาพ
รายงานการวิจัยชิ้นล่าสุดในสหรัฐค้นพบว่า คนผอมแห้งแรงน้อย มีแนวโน้มที่จะตอบสนองต่อเสียงต่างๆ ในระยะประชิดได้ดีกว่าคนตัวใหญ่ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? ศาสตราจารย์ John Neuhoff นักจิตวิทยาด้านวิวัฒนาการที่ College of Wooster ในรัฐโอไฮโอและเพื่อนร่วมงาน ทำการทดลองโดยให้กลุ่มตัวอย่าง 50 คน ฟังเสียงเสียงหนึ่งในระยะประชิด แล้วให้กดปุ่มทันทีเมื่อได้ยินเสียงนั้น ผลปรากฎว่ากลุ่มตัวอย่างราว 98% กดปุ่มเร็วเกินไป โดยใช้เวลาเฉลี่ยในการตอบสนองต่อเสียงประมาณ 130 มิลลิเซคคันด์ แต่บางคนใช้เวลาตอบสนองประมาณ 500 มิลลิเซคคันด์หรือราวครึ่งวินาที  จากนั้นนักวิจัยได้จัดอันดับความแข็งแรงของร่างกายกลุ่มตัวอย่างทั้ง 50 คนนั้น และพบว่า คนที่ผอมแห้งแรงน้อย สามารถตอบสนองต่อเสียงที่ได้ยินในระยะประชิดได้รวดเร็วกว่าคนตัวใหญ่แข็งแรง  สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น ศาสตราจารย์ Neuhoff วิเคราะห์ว่า อาจจะต้องย้อนกลับไปถึงสมัยดึกดำบรรพ์ เมื่อมนุษย์ยังคงเป็นเหยื่ออันโอชะของสัตว์ใหญ่ๆ มนุษย์ที่ตัวเล็กหรืออ่อนแอกว่า จึงต้องมีสัญชาติญาณการเอาตัวรอด เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นอาหารของสัตว์อื่น หรือภัยอันตรายต่างๆ การตอบสนองต่

นักวิทยาศาสตร์ในแอนตาร์คติกาพบ จุลินทรีย์กลุ่มหนึ่ง อาศัยอยู่ใต้น้ำแข็งหนา มาหลายล้านปี

รูปภาพ
นักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานอยู่ในทวีปแอนตาร์คติกา หรือ แถบขั้วโลกใต้ สำรวจพบจุลินทรีย์กลุ่มหนึ่งที่ดูเหมือนว่าอาศัยอยู่ใต้น้ำแข็งหนาหลายร้อยเมตร มานานหลายล้านปีแล้ว จุลินทรีย์กลุ่มนั้นเป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ที่แสดงถึงความกว้างไกลของอาณาบริเวณ ที่สิ่งมีชีวิตสามารถเจริญเติบโตได้ คณะนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ ที่ทำงานศึกษาวิจัยด้านนิเวศวิทยา ของสิ่งมีชีวิตระดับจุลินทรีย์ใต้ธารน้ำแข็ง Taylor ในทวีปแอนตาร์คติกา หรือ แถบขั้วโลกใต้ พบจุลินทรีย์อยู่ในที่ที่ไม่มีแสง ไม่มี อ็อกซิเจน ในแหล่งน้ำเค็มที่เค็มจัด จนไม่จับตัวแข็งแม้อุณหภูมิต่ำลบ 5 องศาใต้ธารน้ำแข็งนั้น บริเวณตอนปลายหน้าสุดของธารน้ำแข็ง Taylor เป็นน้ำแข็งที่ก่อตัวในลักษณะสีสรรแปลก และมีชื่อเรียกน่ากลัว เหมือนในภาพยนตร์สยองขวัญว่า "Blood Falls" หรือ "น้ำตกเลือด" เพราะมีสีแดง Jill Mikucki หัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์นานาชาติคณะนี้กล่าวว่า เป็นรอยจากสนิมเหล็ก การเปลี่ยนแปลงทางเคมีต่างๆ จะมีพลังงานออกมา ก็เลยคิดว่าจะมีสิ่งมีชีวิตชนิดใดหรือไม่ ที่อาศัยประโยชน์จากจากแหล่งพลังงานนั้น เพราะที่ใดมีพลังงาน ก็มั