บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก เมษายน, 2019

กองทัพอินเดียโพสต์ภาพอ้างเป็นรอยเท้า เยติ

รูปภาพ
ชาวเน็ตล้อกระจาย กองทัพอินเดียโพสต์ภาพอ้างเป็นรอยเท้า “เยติ” กองทัพอินเดียโพสต์ภาพที่พวกเขาอ้างว่า เป็นรอยเท้าของ ‘เยติ’ ลงบนโลกออนไลน์ แต่ดูเหมือนชาวเน็ตจะไม่เชื่อว่าเป็นของจริง และออกมาแสดงความเห็นล้อเลียนเป็นจำนวนมาก... สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 29 เม.ย. 2562 กองทัพอินเดียโพสต์ภาพรอยบางอย่างบนพื้นหิมะ ลงบนทวิตเตอร์ของพวกเขาที่มีผู้ติดตามกว่า 6 ล้านคน พร้อมกับข้อความว่า พวกเขาค้นพบรอยเท้าปริศนาของ ‘เยติ’ สัตว์ในตำนาน ที่แคมป์ฐานชื่อว่า ‘มาคาลู’ บนเทือกเขาหิมาลัย ADG PI - INDIAN ARMY ✔ @adgpi  For the first time, an #IndianArmy Moutaineering Expedition Team has sited Mysterious Footprints  of mythical beast 'Yeti' measuring 32x15 inches close to Makalu Base Camp on 09 April 2019. This elusive snowman has only been sighted at Makalu-Barun National Park in the past. 25.1K 12:13 AM - Apr 30, 2019 14.2K people are talking about this Twitter Ads info and privacy ทั้งนี้ เยติ หรือ ‘มนุษย์หิมะ’ เป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายกอริ

ไขปริศนา เกาะลึกลับทางฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย ที่ใครๆ ก็หาไม่พบ

รูปภาพ
ทะเลที่กว้างใหญ่ของเรานั้นมีเรื่องที่ทำให้เราคาดไม่ถึงอยู่หลายต่อหลายเรื่องด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดในท้องทะเลที่ผู้คนต่างพากันหวาดกลัว เรื่องราวของผีที่พบร่องรอยอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ในท้องทะเล รวมถึงเรื่องราวของ เกาะปริศนา เช่น หมู่เกาะ Sandy ที่เป็นข้อถกเถียงกันในหมู่นักสำรวจและนักวิทยาศาสตร์ว่าแท้จริงแล้วนั้นเกาะนี้มีอยู่จริงหรือไม่ แล้วถ้ามีอยู่จริงมันอยู่ที่ไหนกันแน่?   Sandy หมู่เกาะลึกลับกลางทะเลประเทศออสเตรเลียหนึ่งในประเทศที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดเป็นระดับต้นๆ ของโลกและมีสภาพภูมิประเทศที่ทรหดสุดๆ สำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นการที่จะพบเกาะใหม่ๆ นั้นอาจมองเป็นเรื่องธรรมดาๆ แต่สำหรับคนอื่นๆ กลับตรงกันข้ามทุกคนตื่นเต้นที่จะขึ้นไปเหยียบแผ่นดินใหม่ แผนที่หมู่เกาะ Sandy Island ปี 1908   หมู่เกาะที่ว่านี้ก็คือหมู่เกาะแซนดี้ (Sandy Island) ตามที่มีอยู่ในบันทึกการเดินเรือของพวกนักเดินเรือที่เคยเดินทางผ่านเกาะนี้มาก่อน เมื่อเห็นหมู่เกาะใหม่ปรากฏอยู่ใกล้ๆ ออสเตรเลียแล้วแน่นอนว่าการสำรวจย่อมตามมา พวกนักวิทยาศาสตร์ และนักสำรวจ

THE EYE เกาะลึกลับที่สามเหลี่ยมพารานา

รูปภาพ
คุณทราบหรือไม่ว่า บนโลกใบนี้ของเรามีสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้นอยู่มากมายบนพื้นโลก ที่มีการค้นพบจากมนุษย์อยู่มากมาย จนได้ตั้งข้อสงสัยและข้อสังเกตต่างๆ และหาคำตอบ ซึ่งก็มีในบางเรื่องที่หาคำตอบได้ และก็ยังมีอยู่อีกหลายเรื่องเช่นกันที่มนุษย์เรายังไม่สามารถหาคำตอบได้ เราคงพอจะทราบกันมาบ้างกับวัตถุประหลาดต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก ตัวอย่างเช่น สโตนเฮ้นจ์ ที่มนุษย์ได้พบขึ้นและตั้งข้อสันนิษฐานว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อก้อนหินประหลาดใหญ่ยักษ์ ที่วางทับกันได้อายุกว่าหลายร้อนหลายพันปี มีการนำขึ้นไปวางในลักษณะนั้นได้อย่างไรในเมื่อวิวัฒนาการในยุคนั้น ยังไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่จะสามารถนำวัตถุที่หนักหลานตันขึ้นไปได้ ซึ่งก็ยังคงเป็นปริศนาที่ทำให้ชวนพิศวงกันต่อไป โดยเรื่องรางประหลาดที่จะหยิบยกมานำเสนอในวันนี้ มีชื่อว่า The Eye ที่มีการค้นพบอย่างบังเอิญเมื่อหลายปีก่อน และจนถึงตอนนี้ก็ยังหาคำตอบของที่มาและเรื่องราวอย่างแน่ชัดไม่ได้ The Eye เป็นเกาะประหลาดที่ถูกค้นพบว่าอยู่ในประเทศอาเจนตินา ที่มีลักษณะเป็นวงกลมที่เป็นแอ่งน้ำและมีเกาะอยู่ภายใน ด้วยลักษณะที่กลมมากจนผิดสังเกตว่าไม่อาจเก

นักท่องเที่ยวแห่ดู หินรูปพญานาคที่สุพรรณฯ

รูปภาพ
นักท่องเที่ยวแห่ดู! หินรูปพญานาคที่สุพรรณฯ ผู้สื่อข่าวมติชนรายงานว่า ที่เขาพุหางนาค ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ชาวบ้านจากทั่วสารทิศแห่เดินทางมาดูหินที่มีรูปพญานาคโผล่ออกมาชาวบ้านต่าง วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนาๆ เชื่อว่าเป็นสิ่งดีที่เกิดขึ้น เพราะขณะนี้มีประชาชนเดินทางเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่องหลัง ทราบข่าว นายภาคภูมิ จิตต์โสภณ ผู้ก่อตั้งชุมชนคนรักป่าพุหางนาค เปิดเผยว่า ตนเองนั้นเดินทางมาพร้อมคณะเพื่อสำรวจเจดีย์ต่างๆ ที่อยู่บนยอดเขาก็พบหินที่มีรูปพญานาคลอยนูนเด่นออกมาบริเวณใกล้กับ ลานจันผาสัญญารัก ที่เป็นก้อนหินอยู่คู่กับต้นจันผาแบบเรียกว่าแยกไม่ออกชาวบ้านและนักท่อง เที่ยวจึงช่วยกันตั้งชื่อลานหินแห่งนี้ว่าจันผาสัญญารักและเราจะไม่พรากจาก กัน  สำหรับรูปพญานาคที่เกิดขึ้นบนก้อนหินเป็นสีขาวเด่นจากก้อนหินเป็นรูปพญานาค อ้าปาก ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเชื่อว่าเป็นศิริมงคลแก่ผู้พบเห็นและผู้ที่ให้ความ เคารพเพราะในป่าผืนนี้ยังมีอะไรที่แปลกๆและแตกต่างจากที่อื่นอีกมากมาย เรื่องราวเหล่านี้เล่าไปก็ไม่เชื่อต้องมาดูกันเองให้เห็นกับตาว่ามีเรื่อง ราวอย่างไรป

พบไหลึกลับ 600 ปี นับร้อยกลางป่าเขมรบรรจุกระดูก เชื่อบางส่วนไปจากสยาม

รูปภาพ
เอเอฟพี ไหกว่าร้อยใบ และโลงศพนับสิบโลงถูกจัดวางเรียงบนเชิงผาในผืนป่าอันห่างไกลของกัมพูชามาเป็นเวลานานหลายศตวรรษ ที่บรรจุโครงกระดูก และความลับของกลุ่มคนปริศนาที่อาศัยอยู่ขนานไปกับช่วงเวลาในสมัยพระนคร                เหตุใดโครงกระดูกเหล่านี้ถึงถูกบรรจุลงในไห และตั้งไว้บนเชิงผาที่ความสูงกว่า 100 เมตร ในเทือกเขาคาร์ดามอม (Cardamom) หรือพนมกระวัญ (Phnom Krovanh) ตามชื่อเรียกในท้องถิ่น หรือแท้จริงแล้วนั้นโครงกระดูกเหล่านี้เป็นของผู้ใด คำถามเหล่านี้ยังคงเป็นปริศนาให้แก่ผู้เชี่ยวชาญมาเป็นเวลานาน                เป็นเวลา 7 ปี ที่ แนนซี่ เบแวน นักโบราณคดีผู้เชี่ยวชาญในการคำนวณอายุของวัตถุเก่าแก่โดยดูจากปริมาณคาร์บอน ได้พยายามรวบรวมเบาะแสที่ถูกทิ้งไว้โดยคนลึกลับจากสถานที่ 10 แห่ง ทั่วพื้นที่ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของกัมพูชา และจากการทดสอบพบว่ากระดูกบางส่วนมีอายุมากถึง 6 ศตวรรษ                “ทำไมต้องเอาโครงกระดูกเหล่านี้ใส่ลงไปในไห? นี่เป็นการกระทำที่ไม่พบในพื้นที่อื่นๆ ของกัมพูชา” แนนซี่ เบแวน กล่าว                ไห 10 ใบ ที่มีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 จนถึงศตวรรษ 17 และโลงศพ

พบกับรอยเท้าลึกลับฝังรอยบนหินก้อนใหญ่ ตามเส้นทางไปลานหินปุ่ม ตรงข้ามกับสะพานมรณะ

รูปภาพ
คณะทัวร์ป่าหน้าฝนของอุทยานภูหินร่องกล้า อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เดินทางสำรวจท่องเที่ยวภายในอุทยานฯ ได้พบกับรอยเท้าบนหินก้อนใหญ่ ตามเส้นทางไปลานหินปุ่ม ตรงข้ามกับสะพานมรณะ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าตรวจสอบ ทั้ง นี้ รอยเท้าดังกล่าวเป็นข้างขวาข้างเดียว มีนิ้วเท้าครบทั้ง 5 นิ้ว มีสภาพที่สมบูรณ์ คาดว่าเป็นรอยเท้าของผู้หญิง เพราะมีขนาดเล็กมาก เมื่อเทียบกับเท้าของเจ้าหน้าที่ผู้ชาย ฝังอยู่ในก้อนหินของป่าต้นน้ำขนาดใหญ่ความกว้างประมาณ 5 เมตร ที่มีลำธารสายเล็ก ๆ ไหลผ่านรอยเท้าโบราณ ด้าน นายไพรัช มณีงาม หัวหน้าอุทยานภูหินร่องกล้า เปิดเผยว่า รอยเท้ามนุษย์ดังกล่าว ถือว่าแปลกประหลาด น่าจะเกิดโดยธรรมชาติ อย่าง ไรก็ตาม นายศักดิ์ปรินทร์ สุรารักษ์ ผู้ช่วยอุทยานแห่งชาติ ภูหินร่องกล้า กล่าวว่าขณะนี้พบรอยเท้าคนเพียงจุดเดียวเท่านั้น กำลังรวบรวมข้อมูล ภาพถ่ายเพื่อแจ้งให้นักธรณีวิทยามาสำรวจ นักธรณียืนยันรอยเท้าที่พบใน “ภูหินร่องกล้า” ไม่ใช่ของมนุษย์ ชี้หินที่อุทยานดังกล่าวมีช่วงอายุในกลุ่ม หินยุคไดโนเสาร์ และไม่น่าใช่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมซึ่งเกิดหลังจากยุคนั้นอีกนาน ยืนยันแค่ลำดับเหตุการณ์ทางธรณ

ชาวบราซิลเปลี่ยนป่าแล้งให้สมบูรณ์ เป็นที่อยู่อาศัยให้สัตว์กว่า 500 ชนิด

รูปภาพ
18 ปีไม่สูญเปล่า!  ชาวบราซิลเปลี่ยนป่าแล้งให้สมบูรณ์ เป็นที่อยู่อาศัยให้สัตว์กว่า 500 ชนิด คู่รักชาวบราซิลคู่หนึ่งนามว่า   Sebastião Salgado   และ Lélia Wanick Salgado ได้ร่วมมือกันปลูกผืนป่าที่บ้านเกิด หลังจากรู้ว่าต้นไม้ทั้งหมดถูกตัดออกไป และสัตว์ป่าก็สูญหายไปเช่นกัน พวกเขาใช้เวลากว่า 18 ปี เปลี่ยนผืนป่าให้มีสภาพสมบูรณ์ดังเดิมพร้อมกลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยให้สิ่งมีชีวิตถึงกว่า 500 สายพันธุ์ Lélia (ด้านซ้าย) และ Sebastião  (ด้านขวา) กับผลงานของพวกเขา ย้อนกลับไปในปี 1994 ช่างภาพนามว่า Sebastião Salgado ได้กลับไปยังป่าที่บ้านเกิดในรัฐมีนัสเชไรส์ ประเทศบราซิล พร้อมคาดหวังว่าจะได้เห็นผืนป่าเขตร้อนอันเป็นสรวงสวรรค์จากความทรงจำในวัยเด็ก อย่างไรก็ตาม เขาต้องพบกับความหดหู่และน่าผิดหวัง เมื่อผืนป่าที่เขารักและรู้จักถูกทำลายไปหมดสิ้น มีเพียงแค่ 0.5% ของพื้นที่ป่าเท่านั้นที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ Sebastião รู้ ณ ตอนนั้นเลยว่าเขาต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยเหลือป่าบ้านเกิด เขาได้เข้าร่วมประชุมกับผู้นำทางศาสนาของชุมชนถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

รักต่างวัย หนุ่ม 28 แต่งคุณยายวัย 80 

รูปภาพ
💗รักต่างวัย หนุ่ม 28 แต่งคุณยายวัย 80 MANADO, INDONESIA 💟ศรรักปักใจไม่เคยเลือกว่าจะแทงทะลุหัวใจของใครดี แม้กระทั้งคู่รักคู่นี้ที่มีอายุต่างกันหลายสิบปี Sofian Loho Dandel วัย 28 ปี เพิ่งจะเข้าพิธีสมรสกับ มาร์ธา เบท วัย 80 ปี เรื่องราวความรักที่ต่างวัยนี้ได้สร้างกระแสไปบนเฟซบุ๊ก เรื่องราวความรักของพวกเขาเริ่มต้นขึ้นจากความใกล้ชิด โดย Sofian เผยว่าได้รับโทรศัพท์ซึ่งโทรผิด หลังการพูดคุยเขาก็ทราบว่าเจ้าของเสียงปลายสายก็คือมาร์ธา แม้ว่าจุดเริ่มต้นจะเป็นแค่การโทรผิด แต่พวกเขาก็ได้รักษาการติดต่อสื่อสารกันอย่างสม่ำเสมอ เมื่อศรรักปักอกจนไฟในทรวงปะทุ พวกเขาจึงได้ตัดสินใจพบหน้ากัน ตอนแรกชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจที่เห็นมาร์ธาเป็นคุณยายวัยชรา แต่เนื่องจากหัวใจมันเรียกร้อง ทั้งคู่จึงตัดสินใจแต่งงานกันที่โบสถ์ Pentecostal ในหมู่บ้าน Leleman, Manado เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2018

วินาทีฟ้าผ่า เบิร์จ คาลิฟา ตึกสูงที่สุดในโลกที่ดูไบ

รูปภาพ
เมื่อตึก “เบิร์จ คาลิฟา” ตึกสูงที่สุดในโลก ในนครดูไบ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถูกฟ้าผ่ากลางพายุ วินาทีที่ตึก เบิร์จ คาลิฟา ตึกสูงที่สุดในโลก ที่นครดูไบ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถูกฟ้าผ่ากลางดึก ท่ามกลางสภาพอากาศแปรปรวน ซึ่งประชาชนที่อาศัยอยู่ในอาคารใกล้เคียงสามารถเก็บภาพไว้ได้ และนำมาแชร์ใน โลกออนไลน์ ... ป้อมดาวคือการใช้มุขป้อมที่กลายมาเป็นลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของป้อมปราการแบบใหม่ เคราะดีที่อาคารสูงแห่งนี้มีระบบป้องกันฟ้าผ่าที่มีประสิทธิภาพสูง ระบบไฟฟ้าของอาคารจึงไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

9 สิ่งที่จะเกิดขึ้น เมื่อมนุษย์ทั้งหมดหายไปจากโลกใบนี้

รูปภาพ
1. หลังจากมนุษย์หายไปไม่กี่ชั่วโมง ถ้ามนุษย์หายไปหมดโลกในทันที ผลกระทบแรกที่จะเกิดขึ้นก็คือ ไฟฟ้าทั้งหมดจะดับลงภายในไม่กี่ชั่วโมง เนื่องจากสถานีไฟฟ้าทั่วโลก ทำงานโดยเชื้อเพลิงจากถานหิน หรือก๊าซธรรมชาติ ที่ต้องอาศัยแรงงานจากมนุษย์คอยควบคุม และเมื่อไม่มีมนุษย์คอยควบคุม สถานีไฟฟ้าจะหยุดทำงาน และโลกจะมืดมิดเกือบทั้งหมด เหลือเพียงพลังงานจากแสงอาทิตย์และกังหันลมจะทำงานต่อไป  2. หลังจากมนุษย์หายไปไม่กี่วัน ในเมื่อไม่มีใครดูแล พลังงานจากแสงอาทิตย์ และกังหันลมจะหมดลงภายใน 48 ชั่วโมง และพลังงานบนโลกทั้งหมดจะหยุดทำงาน สัตว์เลี้ยงตามบ้านจะหิวโหยและเกิดภาวะขาดน้ำ เนื่องจากถูกขังไว้ในบ้าน อุโมงค์รถไฟใต้ดินทั้งหลายจะถูกน้ำท่วม เนื่องจากไม่มีมนุษย์มาควบคุมปั๊มสูบน้ำ ที่คอยสูบน้ำออกไปจากอุโมงค์  3. หลังจากมนุษย์หายไปไม่กี่สัปดาห์ สัตว์เลี้ยงตามบ้านจะตายจากการขาดอาหาร และไม่สามารถเอาชีวิตรอดจากการใช้ชีวิตข้างนอกได้ เนื่องจากสัตว์เหล่านี้ถูกเลี้ยงดูมาโดยมนุษย์ตังแต่เกิด จึงไม่สามารถใช้ชีวิตลำพังได้ และสัตว์เลี้ยงของมนุษย์ทั้งหลายจะกลายเป็นเหยื่อของสัตว์ใหญ่ ที่มีชีวิตรอดในช่วงนั้น สัตว์ในสวนสั

ค้นพบภาพวาด สุสานอียิปต์ 4,000 ปี ชาวเน็ตทึ่งเพราะมันดูเหมือนวาดเสร็จใหม่ๆ

รูปภาพ
นักโบราณคดีค้นพบสุสานอียิปต์ 4,000 ปี ชาวเน็ตทึ่งเพราะมันดูเหมือนวาดเสร็จใหม่ อียิปต์โบราณ ถือเป็นยุคที่รุ่งเรืองที่สุด ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ และการค้นพบหลักฐานในยุคอียิปต์โบราณแต่ละครั้งก็สร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนได้ไม่น้อย โดยเฉพาะการค้นพบเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เมื่อทาง คาเลด อัล-เอนานี รัฐมนตรีกระทรวงโบราณวัตถุของอียิปต์ได้เปิดเผยถึงข่าวการค้นพบสุสานใหม่ล่าสุดที่สร้างความประหลาดใจให้กับนักโบราณคดีทั่วโลกไม่น้อย หลังจากตรวจสอบโดยละเอียดก็พบว่า สุสานดังกล่าวมีอายุมากกว่า 4,000 ปี และที่สำคัญก็คือ ภายในสุสานแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม แถมยังมีสีสันสดใสราวกับเพิ่งถูกวาดขึ้นมาใหม่ๆ สุสานที่ซับซ้อนแห่งใหม่นี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Khuwy โดยเป็นขุนนางจากราชวงศ์ที่ห้าแห่งอียิปต์โบราณ ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อระหว่างปีที่ 25 ถึง 24 ก่อนคริสตกาล โดยทาง อัล-เอนานี ได้มีการเชิญเอกอัครราชทูตจากต่างประเทศถึง 52 คน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณสถาน และ โยสรา นักแสดงสาวชาวอียิปต์ มาร่วมสังเกตการณ์การเปิดสุสานในครั้งนี้ด้วย