มนุษย์โลกจะสูญพันธุ์แบบเดียวกับไดโนเสาร์รึเปล่า? ใ
อ่านบทความนี้แล้วรู้สึกขำก๊ากๆ เพราะว่า คุณคิดว่ามนุษย์จะสูญพันธุ์แบบเดียวก็ไดโนเสาร์ หรือเปล่า ถ้าไดโนเสาร์สูญพันธุ์ได้ มนุษย์ก็ต้องสูญพันธุ์ได้ ไม่แตกต่างกัน ว่าแต่จะสูญพันธุ์แบบสถานการณ์ใด สถานการณ์หนึ่ง เท่านั้นเอง
มนุษย์โลกจะสูญพันธุ์แบบเดียวกับไดโนเสาร์รึเปล่า? ในขณะที่เรากำลังเผชิญกับวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมที่กำลังเกิดขึ้น จำนวนประชากรโลกก็ไม่ได้ลดน้อยลง แต่กลับเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนล่าสุด สหประชาชาติออกมาบอกแล้วว่า ตอนนี้บนโลกมีมนุษย์แล้ว 8 พันล้านคน จึงทำให้อาจมีความคิดที่ว่า
“มนุษย์ไม่มีวันจะสูญพันธุ์”
แต่คำตอบสั้น ๆ ของเรื่องนี้คือ… แน่นอน มนุษย์จะสูญพันธุ์ แม้เราจะผ่านปัญหาภาวะโลกร้อนไปได้ แต่ท้ายที่สุด เราก็จะสูญพันธุ์อยู่ดี มันคือชะตาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่สบายใจได้ ยังใช้เวลาอีกประมาณล้านปีข้างหน้า ดังนั้น ขอให้กินหมูกระทะอย่างสบายใจในเย็นนี้
แล้วเราจะสูญพันธุ์ไปด้วยวิธีไหนบ้าง? สิ่งที่จะเกิดขึ้นเร็วที่สุดคือ โฮโม เซเปียนส์ (Homo Sapiens) ที่เป็นชื่อสปีชีส์ของมนุษย์ปัจจุบัน หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ พวกเราเองนี่แหละ จะหายไปในเวลาไม่เกิน 1-2 ล้านปี จากแรงกดดันทางวิวัฒนาการ เพื่อความอยู่รอดสิ่งมีชีวิตจะต้องเปลี่ยนตัวเอง ในโลกที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ สิ่งนี้เคยเกิดขึ้นแล้วในเชื้อสายของมนุษย์เช่นกัน เราเคยเป็นลิงใหญ่ที่ไม่มีหาง จากนั้นกลายเป็นสปีชีส์ใหม่เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และวิวัฒนาการจะเดินหน้าต่อไป ในอนาคต ลูกหลานของเราจะไม่ใช่ โฮโม เซเปียนส์ อีกต่อไป พวกเขาจะเป็นสายพันธุ์ใหม่ และนั่นคือการสูญพันธุ์ทางวิวัฒนาการ
แล้วโลกของเราล่ะ? จะแตกจริงไหม? ชีวิตบนโลก จะมีจุดสิ้นสุดรึเปล่า? คำตอบคือ มีแน่นอน แม้ โฮโม เซเปียนส์ จะสูญพันธุ์ ชีวิตก็ยังจะดำเนินต่อไปบนโลกไปอีกเป็นพัน ๆ ล้านปี แต่โลกไม่ได้เป็นวัตถุเดียวในจักรวาล เรายังคงมีดาวฤกษ์ที่เป็นเหมือนแม่ของเราอยู่ นั่นคือ ‘ดวงอาทิตย์’ เมื่อเวลาผ่านไป ดาวแม่ของเราจะเผาผลาญไฮโดรเจนที่เป็นเชื้อเพลิงมันหมดไป แกนกลางของดวงอาทิตย์จะร้อนและขยายตัวขึ้น
พร้อมกับปล่อยพลังงานจำนวนมากพอที่จะต้มมหาสมุทรให้เดือด อาจเหลือชีวิตอยู่เพียงเล็กน้อยที่ส่วนใหญ่เป็นจุลินทรีย์ซึ่งอาศัยอยู่ในสถานที่สุดขั้วอยู่แล้ว แต่ชีวิตส่วนใหญ่จะไม่มีอะไรเหลือ ขณะที่มหาสมุทรร้อนขึ้น น้ำจะระเหยกลายเป็นไอมากขึ้น ซึ่งสร้างสภาวะที่คล้ายเหมือนหม้ออบ ในอีก 1-2 พันล้านปี โลกจะกลายเป็นเหมือนดาวศุกร์ทุกวันนี้
แต่นั่นยังเป็นแค่ครึ่งทางของวันสิ้นโลกจริง ๆ ดวงอาทิตย์จะยังร้อนขึ้นและขยายใหญ่ขึ้นในอีก 5-7 พันล้านปี จากดาวฤกษ์ จะกลายเป็นดาวยักษ์แดง ชั้นภายนอกของดวงอาทิตย์จะขยายใหญ่จนครอบดาวเคราะห์ชั้นในของระบสุริยะ ดาวพุธ ดาวศุกร์ และโลก จะถูกกลืนกินทั้งหมด มีเพียงดาวอังคารที่รอด แต่มันก็อยู่ใกล้มากอยู่ดี
ไม่มีชีวิตใดบนโลกจะรอดได้อีกต่อไป นี่คือจุดสิ้นสุดของทุกชีวิตบนโลกจริง ๆ แม้จะมีนักวิทยาศาสตร์บางคนบอกว่า โลกไม่น่าจะถูกกลืนกิน แต่ก็นั่นแหละ ไม่ว่าจะโดนหรือไม่โดน ดวงอาทิตย์จะสิ้นสุดลงไป อยู่ดี มันจะเผาผลาญเชื้อเพลิงตัวเองจนหมด จนกลายเป็นดาวแคระขาวที่ให้ความอบอุ่นโลกไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ชีวิตก็ต้องหายไปจากโลกอยู่ดี อยู่ที่ว่าจะตายจากความเย็นหรือความร้อน
โลกจะถึงกาลอวสานอย่างแน่นอน แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้น เราจะต้องเจอกับอุปสรรคปัญหาใหญ่ในตอนนี้ก่อน นั่นคือ ภาวะโลกร้อน ที่ผลักดันให้เกิดความผิดปกติต่าง ๆ รวมถึงการสูญพันธุ์ของสัตว์หลาย ๆ ชนิดด้วย และสร้างภัยคุกคามให้กับบ้านที่เราอยู่อาศัยจนอาจไม่สามารถรองรับชีวิตในตอนนี้ได้อีกต่อไป
เราเชื่อว่าถ้าทุกคนช่วยกัน เราจะผ่านไปได้แน่นอน และผลักวันสิ้นโลกหรือสิ้นมนุษยชาติให้ออกไปอีกไกลอย่างที่มันควรจะเป็น จากนั้นเราจะมีเวลาอีกหลายพันล้านปีเพื่อคิดแผนการณ์ขั้นต่อไป
