นักวิจัยเตือน กว่า 1,500 ภาษา ไร้คนพูด-เสี่ยงสูญพันธุ์!
การศึกษาที่นำโดยนักวิจัยในประเทศออสเตรเลียเตือนว่าภายในสิ้นศตวรรษนี้ อาจจะมีภาษามากถึง 1,500 ภาษาจากจำนวนภาษาทั้งหมด 7,000 ภาษาที่ได้รับการยอมรับในโลก ที่จะไม่มีผู้ใช้อีกต่อไป
รายงานดังกล่าวซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Nature Ecology and Evolution กล่าวถึงหลายปัจจัยที่ทำให้ภาษาต่าง ๆ ใกล้สูญพันธ์
ซึ่งสาเหตุหนึ่ง เกิดจากการที่ถนนหนทางทำหน้าที่เชื่อมต่อเมืองและชนบทห่างไกลในโลกได้มากขึ้น ภาษาชนเผ่าต่าง ๆ จึงถูกข่มหรือถูกกลืนโดยภาษาที่โดดเด่นและมีบทบาทมากกว่า เช่น ภาษาอังกฤษ
รายงานยังระบุด้วยว่าการที่สังคมละเลยการเรียนสองภาษา เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาเช่นกัน ทำให้ภาษาพูดของชนกลุ่มน้อยหายไป
ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการสูญเสียภาษามากที่สุดในโลก
ก่อนที่จะชาวยุโรปจะมาตั้งอาณานิคมที่ประเทศออสเตรเลียนั้น ออสเตรเลียมีภาษาชนพื้นเมืองที่ใช้พูดกันมากกว่า 250 ภาษา แต่ในวันนี้เหลือเพียง 40 ภาษาเท่านั้น และมีเพียงประมาณ 10 กว่าภาษาที่มีการนำมาสอนให้เด็กรุ่นหลัง
ศาสตราจารย์ เฟลิซิตี มีกินส์ หนึ่งในผู้เขียนรายงานฉบับดังกล่าว กล่าวว่าการสูญหายของภาษาเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผ่านการยึดครองอาณานิคมและกระบวนการโลกาภิวัฒน์ เธอบอกว่า ภาษาพูดของแต่ละชุมชนซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์และประสบการณ์ของคนในชุมชน ถูกทำให้หายไป หรือถูกกลืนไปเพราะนโยบายที่มากับการล่าอาณานิคม เช่น การลงโทษผู้ที่พูดภาษาถิ่น
นักวิจัยเหล่านี้มองว่าพวกเขาต้องการให้รายงานฉบับนี้เป็นเครื่องเตือนใจสำคัญว่า สังคมโลกต้องทำอะไรอีกมากเพื่อรักษาภาษาที่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกลืมนี้ไว้ พวกเขากล่าวว่า แต่ละภาษานั้น “มีความยอดเยี่ยมในตัวของมันเอง” และยังเป็นสิ่งสำคัญมากต่อ “ความหลากหลายทางวัฒนธรรมของมนุษย์” อีกด้วย
