นักโบราณคดีค้นพบ ร้านอาหารข้างทางร่องรอยรสชาติอายุร่วม 2000 ปี ในปอมเปอี
“เรารู้แล้วว่าพวกเขากินอะไรกัน”
นักโบราณคดีค้นพบ ‘ร้านอาหารข้างทาง’ ร่องรอยรสชาติอายุร่วม 2,000 ปี ในปอมเปอี
.
เมื่อเราเกิดหิวขึ้นมากลางทางระหว่างอยู่บนรถ สิ่งแรกๆ ที่เรานึกถึงคงหนีไม่พ้นร้านอาหารข้างทาง ที่นอกจากจะราคาถูกแล้ว ยังสะดวกและเข้าถึงง่ายอีกต่างหาก มันดูจะเป็นเรื่องใกล้ตัวเรามาก แต่ใครพอจะจินตนาการออกบ้างไหมว่า ร้านอาหารข้างทางเมื่อ 2,000 ปีก่อน จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ล่าสุด กลุ่มนักโบราณคดีในปอมเปอีได้ขุดค้นพบ ‘ร้านอาหารข้างทาง’ ช่วยเปิดเผยร่องรอยและวัฒนธรรมการกิน ของประชาชนชาวโรมันโบราณให้แก่เราในยุคปัจจุบันไปอีกขั้นหนึ่ง
.
มัสสิโม โอซานนา (Massimo Osanna) หัวหน้านักโบราณดีในพื้นที่ปอมเปอีเปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าพวกเขาจะค้นพบร้านอาหารจานด่วนจำนวน 80 กว่าร้านทั่วปอมเปอีแล้วก็ตาม แต่นี่ถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขาค้นพบร้านอาหารข้างทางแบบชั้นวางที่มีช่องบรรจุอาหารและเครื่องดื่มร้อนๆ หรือที่เรียกในภาษาลาตินว่า แตร์มอโปลิอุม (termopolium) ซึ่งแปลงมาจากภาษากรีกโบราณของคำว่า ‘thermos’ ที่แปลว่าร้อน และ ‘poleo’ ที่แปลว่าขาย โดยชั้นวางชั้นนี้ถูกฝังอยู่ใต้ดิน หลังจากที่ชิ้นส่วนบางอย่างของร้านอาหารข้างทางร้านนี้ถูกค้นพบเมื่อ ค.ศ.2019 ที่ผ่านมา
.
หน้าตาของชั้นวางถูกออกแบบให้เข้าถึงได้หลายด้าน โดยมันจะมีช่องขนาดใหญ่หลายช่องเจาะลงไปถึงด้านล่างของชั้น เพื่อเป็นที่เก็บอาหารร้อนๆ ไม่เหมือนกับเราในยุคปัจจุบันที่ใช้ถาดใส่สลัดบาร์ หรือหม้อซุปวางเรียงๆ กันไปบนชั้นวางตามร้านทั่วไป
และเป็นปรกติของร้านอาหารข้างทาง ที่ต้องมีภาพเมนูเอาไว้โฆษณาให้คนผ่านไปผ่านมาได้เห็น แตร์มอโปลิอุมถูกวาดภาพด้วยสีสันอันสดใสของเป็ดและไก่ที่ถูกแขวนห้อยหัวเอาไว้ เสมือนว่ามันไม่เคยถูกลาวาจากภูเขาไฟทำลายลง โดยทางร้านได้มีรูปวาดของนิฟม์ นางไม้ในเทพปกรณัมกรีกถูกวาดประดับเอาไว้เป็นพรีเซนเตอร์ประจำร้านแห่งนี้
.
“เราสามารถวิเคราะห์และยืนยันได้ว่า ภาพวาดเหล่านี้ล้วนเป็นสัญลักษณ์แทนอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ ที่ถูกขายอยู่ในร้าน” วาเลเรีย อามอเรตตี้ (Valeria Amorretti) หนึ่งในนักโบราณคดีให้การยืนยันพร้อมระบุหลักฐานการค้นพบซากกระดูกเป็ด แพะ หมู ปลา และหอยทาก อีกทั้งพวกเขายังค้นพบถั่วปากอ้าในช่องใส่ไวน์ ซึ่งในโบราณกาลนั้น มันถูกใส่ลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติและสีสันให้แก่ไวน์ของพวกเขา
.
“การค้นพบในครั้งนี้ทำให้เรารู้ได้ว่าพวกเขากินอะไรกันในวันนั้น” โอซานนากล่าวเสริมถึงมื้ออาหารสุดท้ายของชาวปอมเปอีหลายคนเมื่อ ค.ศ.79 วันเดียวกันกับที่ภูเขาไฟในเมืองดังกล่าวระเบิดออก และได้คร่าชีวิตของผู้คนในเมืองไปร่วม 2,000 ราย อย่างไรก็ตาม ร้านอาหารข้างทางดังกล่าวทำให้นักโบราณคดีเข้าใจว่า ประชาชนทั่วไปกินอะไรเป็นอาหาร จากเดิมที่พวกเขาค้นพบแต่อาหารที่เป็นของชนชั้นสูงในโรมันโบราณเท่านั้น
โอซานนายังได้สันนิษฐานเพิ่มเติมอีกว่า ร้านอาหารข้างทางนี้ อาจถูกทิ้งร้างแบบฉับพลัน เพราะใกล้ๆ กันกับร้านอาหารข้างทางนี้ พวกเขาค้นพบซากของชายวัย 50 ปี ที่นอนเสียชีวิตอยู่ข้างๆ กับเหยือกใส่น้ำ จึงทำให้พวกเขาคาดการณ์ว่า ชายผู้นี้อาจเป็นเจ้าของร้านซึ่งวิ่งหนีการระเบิดของภูเขาไฟในช่วงแรก
นักโบราณคดีเปิดเผยว่า ร้านอาหารข้างทางที่เพิ่งถูกค้นพบแห่งนี้ อาจถูกขุดเพิ่มเติมจนแล้วเสร็จในช่วงเดือนมีนาคมที่จะถึง และหวังว่ามันจะเปิดให้ผู้คนเข้าเยี่ยมชมได้ เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 มีท่าทีที่ดีขึ้นมาเสียก่อน โดยปอมเปอีถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมมากเป็นอันดับ 2 ของอิตาลี รองจากโคลอสเซียมในกรุงโรมเท่านั้น
