ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 23 เมษายน ค.ศ. 2019 ที่ประเทศคอสตาริกาในอเมริกากลาง ได้มีอุกกาบาตดินเหนียวขนาดพอๆ กับเครื่องซักผ้า แตกตัวเป็นเสี่ยงๆ ในชั้นบรรยากาศ
ก่อนที่ชิ้นส่วนของมันจะกระจัดกระจายไปตามหมู่บ้านสองแห่งซึ่งมีชื่อว่า La Palmera และ Aguas Zarcas
ชิ้นส่วนในเวลานั้น พิเศษกว่าอุกกาบาตอื่นๆ ตรงที่เมื่อนำมันมาตัดครึ่ง มันมีจะเนื้อในเป็นสีรุ้งงดงาม ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้พวกมันมีมูลค่ามากกว่าทองเท่านั้น
แต่เมื่อล่าสุดนี้เอง นักวิทยาศาสตร์ยังออกมาบอกด้วยว่าอุกกาบาตลูกนี้อาจมีสารที่สำคัญต่อการสร้างสิ่งมีชีวิตเก็บเอาไว้อยู่ภายในด้วย!?
👉เนื้อในสีรุ้งของอุกกาบาตจากคอสตาริกา
อ้างอิงจากรายงานที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Sciencemag อุกกาบาตลูกใหม่นี้ ได้รับการตั้งชื่อตามสถานที่ที่ถูกพบครั้งแรกว่า “Aguas Zarcas”
โดยมันเป็นอุกกาบาตที่หลุดออกมาจากดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่กว่าในอวกาศ ซึ่งเกิดขึ้นจากฝุ่นของเนบิวลาหมุนในช่วงต้นของจักรวาลซึ่งให้กำเนิดระบบสุริยะของเราอีกที
ลักษณะของอุกกาบาตเช่นนี้เองทำให้นักวิทยาศาสตร์สนใจที่จะศึกษาอุกกาบาตที่พบเป็นอย่างมาก และเมื่อมันไปถึงมือของทีมนักวิทยาศาสตร์ที่นำโดยคุณ Joshua Sokol พวกเขาก็ได้ค้นพบว่า
ในอุกกาบาตลูกนี้มีสารประกอบคาร์บอนที่ซับซ้อนอย่างไม่น่าเชื่อ โดยมันอาจมีร่องรอยของกรดอะมิโน ซึ่งเป็นสารสำคัญชุดเดียวกับที่ช่วยยึดโครงสร้างโปรตีนและดีเอ็นเอของสิ่งมีชีวิต
👉คุณ Marcia Campos Muñoz ผู้ค้นพบอุกกาบาตลูกนี้เป็นคนแรก
คุณ Sokol อธิบายเพิ่มเติมว่าด้วยความที่ในปัจจุบันการศึกษาอุกกาบาตชนิดใหม่นี้ยังไม่สมบูรณ์ บวกกับความเป็นไปได้ที่อุกกาบาตจะปนเปื้อนสารอื่นๆ เราจึงยังไม่อาจฟันธงการค้นพบในครั้งนี้ได้
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีรุ่นใหม่พวกเขาก็พบว่า อย่างน้อยๆกรดอะมิโนซึ่งถูกพบใน Aguas Zarcas นั้น ก็ไม่ใช่กรดอะมิโนแบบที่สามารถพบได้ที่อื่นในโลกเลย
ด้วยเหตุนี้เอง ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์จึงเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อมากว่าในอนาคตพวกเขาจะมีโอกาสได้ตรวจสอบหินจากอุกกาบาตดินเหนียวซึ่งมีความบริสุทธิ์มากขึ้นกว่านี้อีกขั้น
และหากทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี โอกาสที่นักวิทยาศาสตร์กล่าวมานี้ก็คงจะไม่พ้นตัวอย่างหินอุกกาบาตจากดาวเคราะห์น้อยริวงู ซึ่งยานอวกาศฮายาบูซะ 2 ของญี่ปุ่นมีกำหนดการจะนำกลับมายังโลกภายในปี 2023 นั่นเอง
