โลกมหัศจรรย์ใต้ท้องทะเลเมื่อนักวิทยาศาสตร์พบแนวปะการังน้ำลึกขนาดใหญ่ 2แห่งใหม่ในแถบหมู่เกาะกาลาปากอส ยาวเกิน 8สนามฟุตบอลต่อกัน

โลกมหัศจรรย์ใต้ท้องทะเลเมื่อนักวิทยาศาสตร์พบแนวปะการังน้ำลึกขนาดใหญ่ 2แห่งใหม่ในแถบหมู่เกาะกาลาปากอส ยาวเกิน 8สนามฟุตบอลต่อกัน 

นี่ก็อาจจะเป็นข่าวดีอีกข่าวหนึ่งผู้ที่รักธรรมชาติใต้ท้องทะเลดำน้ำผุดดำว่ายดูแนวปะการัง และนี่ก็อาจจะเป็นอีกสถานที่ที่สำคัญที่สามารถจะศึกษาเรื่องเกี่ยวกับประการังต่างๆที่ยังมีสภาพสมบูรณ์ได้ด้วยนะครับเมื่อเมื่อนักวิทยาศาสตร์พบแนวปะการังน้ำลึกขนาดใหญ่ 2แห่งใหม่ในแถบหมู่เกาะกาลาปากอส ยาวเกิน 8สนามฟุตบอลต่อกัน  คุณลองหลับตานึกภาพดูสิครับว่าพื้นที่แนวปะการังที่พบนี้มันจะใหญ่โตมโหฬารพื้นที่อลังการขนาดไหน

ทีมนักชีววิทยาทางทะเลของสถาบันสมุทรศาสตร์ชมิดต์ได้ทำแผ่นที่ระบบนิเวศหน้าผาใต้น้ำโดยวิธีสแกนเลเ

ซอร์ความละเอียดสูงทำให้พวกเขาพบแนวปะการังขนาดยักษ์ใหม่ 2 แห่งที่ไม่เคยเจอมาก่อน

ทั้งคู่ตั้งอยู่ในแถบหมู่เกาะกาลาปากอส 

แห่งแรกมีขนาดเกิน 8 สนามฟุตบอลต่อกันโดยมีความยาวกว่า 800 เมตร(สนามฟุตบอลยาว 90เมตร) ขณะที่อีกแห่งยาว 250 เมตร

นักวิทยาศาสตร์เชื่อกันว่าแนวปะการังเหล่านี้อยู่มาเป็นเวลานานหลายพันปีแล้ว

จนกลายเป็นระบบนิเวศน้ำลึกที่สมบูรณ์แข็งแรงทั้งคู่อยู่ที่ระดับความลึก 370 ถึง 420 เมตร

“เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ข้อมูลการทำแผนที่ของเราสามารถปรับปรุงความเข้าใจเกี่ยวกับระบบนิเวศแนวปะกา

รังในกาลาปากอสได้” ดร. Katleen Robertหัวหน้าคณะการสำรวจกล่าว 

ทีมวิจัยหวังว่าการค้นพบแนวปะการังเหล่านี้ที่อยู่ในเขตอนุรักษ์ทางทะเลของกาลาปากอส

ซึ่งมีความสำคัญทางชีวภาพจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจบทบาทของแหล่งที่อยู่อาศัยใต้ทะเลลึกและรักษาสุขภาพของมหาสมุทรได้ดีขึ้น

เนื่องจากการวัดต่าง ๆ

เข้าใจได้ยากถ้าเราไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใต้บ้าง

นอกจากการสำรวจระบบนิเวศใต้น้ำลึกแล้วคณะสำรวจยังตั้งเป้าหมายที่จะสร้างแผนที่สภาพแวดล้อมที่มีความละเอียดสูงโดยใช้เทคโนโลยีการสแกน

ด้วยเลเซอร์ ซึ่งสามารถสร้างภาพที่มีความแม่นยำถึง2 มิลลิเมตร

ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถระบุสัตว์ที่อาศัยอยู่บนพื้นทะเลได้โดยไม่ต้องดำลงไปลึก

ผลลัพธ์ของเทคโนโลยีนี้ทำให้พวกเขาพบภูเขาใต้ทะลเพิ่มอีก 2 แห่งระหว่างการสำรวจ

ซึ่งไม่เคยเจอมาก่อนด้วยการสำรวจดาวเทียมหรือการถ่ายภาพแบบอื่น ๆ 

"ข้อมูลนี้ไม่เพียงแค่มีคุณค่าในมุมมองทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น

แต่ยังเป็นพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับการปกป้องระบบนิเวศเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพที่พวกมันสะสมไว้

และรับประกันความยืดหยุ่นในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา" 

Danny Rueda Córdova

ผู้อำนวยการฝ่ายอุทยานแห่งชาติกาลาปากอสกล่าวเสริม

“พลวัตทางธรณีวิทยาของภูมิภาคนี้มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศใต้ท้องทะเลลึกการวิจัยและการทำแผนที่เป็นเครื่องมือสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่ากาลาปากอสยังคงเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของความงามและความสำคัญของธรรมชาติ"

ต้องขอบคุณธรรมชาติที่สรรค์สร้างเสริมเติมแต่งให้โลกสวยและขอขอบคุณนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบแนวปะการังที่ใหญ่โตมโหฬารนี้

มันอาจจะเป็นมรดกของโลกและธรรมชาติต่อไปในอนาคตตราบถ้าโลกนี้ยังไม่แตกสลายสภาพแวดล้อมวิปริตน้ำทะเลเพิ่มขึ้นภาวะโลกร้อนทำลายเสียก่อน