สาระน่ารู้ หลักกิโลเมตรที่ 0 ของประเทศไทยอยู่ที่ไหน ..
สาระน่ารู้ หลักกิโลเมตรที่ 0 ของประเทศไทยอยู่ที่ไหน ..
หลักกิโลเมตรที่ 0 ข้อมูลจาก กรมทางหลวง
อธิบายเรื่อง หลักกิโลเมตรที่ 0 ของประเทศไทย ว่ามีที่เดียว คือ หัวมุม ถนน ดินสอ ใกล้กับ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จังหวัด กรุงเทพมหานคร ฝั่งตรงข้าม โรงเรียน สตรีวิทยา
หลักกิโลเมตรที่ 0
อันที่จริงไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่ระบุถึงที่มาที่ไป หรือ เหตุผลการปักหลุด หลักกิโลเมตรที่ 0 ไว้ตรงนี้ แต่จากการสันนิษฐาน จาการ บันทึกคำกล่าวของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม สมัยที่เป็นนายกรัฐมนตรี ตอนกล่าวในพิธีเปิด อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2483 ตอนหนึ่งว่า
เพื่อเชิดชูคุณค่าของประชาธิปไตย และ เพื่อมีเครื่องเตือนใจ ให้พยายามผดุงรักษาระบอบนี้ให้สถิตสถาพรอยู่ ตลอดกาล คณะรัฐบาลจึงลงมติให้สร้างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อนุสาวรีย์นี้ จะเป็นศูนย์กลางแห่งความเจริญก้าวหน้าทั้งมวล เป็นต้นว่า ถนนสายต่างๆที่จะออกจากกรุงเทพฯ ไปยังหัวเมือง ก็จะนับต้นทางจากอนุสาวรีย์นี้
เหล่าข้าราชการสมัยนั้น พอได้ฟังคำกล่าวของผู้นำประเทศ ก็ต้องปฎิบัติตาม สร้างหลักทางหลวงขนาดยักษ์ไว้ ณ หัวมุม ถนน ดินสอ ใกล้กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วการปักหลัก กิโลเมตรที่ 0 หรือ เรียกสั้นๆว่า กม. 0 เป็นเพียงสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ เท่านั้น
เนื่องจาก ทางหลวงแผ่นดินสายหลักที่ใช้เป็นโครงข่ายเชื่อมการจราจรระหว่างภาคต่อภาค ล้วนมีจุดเริ่มแรกที่ต่างกัน จะเห็นได้จากข้อมูลของกรมทางหลวงที่ระบุไว้ว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีทางหลวงแผ่นดินอยู่ 4 สาย ได้แก่
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ( ถนนพหลโยธิน ) เริ่มจาก อนสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เขต ราชเทวี กรุงเทพมหานคร ถึง ชายแดนสหภาพพม่า ( ด่านพรมแดนแม่สาย ) อ. แม่สาย จ. เชียงราย
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 ( ถนนมิตรภาพ ) จากทางแยก ต่างระดับมิตรภาพ อ. เมืองสระบุรี ถึง ชายแดนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ( สะพานมิตรภาพไทย – ลาว ) อ. เมืองหนองคาย
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 ( ถนนสุขุมวิท ) จากจุดตัด ทางรถไฟสายแม่น้ำ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ถึง ชายแดนราชอาณาจักรกัมพูชา ( บ้านหาดเล็ก ) อ. คลองใหญ่ จ. ตราด
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 ( ถนนเพชรเกษม ) จาก สะพาน เนาวจำเนียร เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ถึง ชายแดนประเทศมาเลเซีย ( ด่านพรมแดนสะเดา บ้านไทย – จังโหลน ) อ. สะเดา จ. สงขลา
แต่การนับจุดเริ่มต้นจริงๆ จะวัดจากหลักทางหลวง ที่ตั้งอยู่หัวมุมถนนดินสอ ฝั่งตรงข้าม โรงเรียน สตรีวิท และ อยู่ใกล้กับ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เขตพระนคร อธิบดีกรมทางหลวง สรุปคำตอบอย่างชัดเจนในตอนท้าย
ข้อมูลเพิ่มเติม
ก่อนหน้านี้ถนนพหลโยธินมีชื่อเดิมว่า "ถนนประชาธิปัตย์"ไปถึงดอนเมืองเมื่อปี พ.ศ. 2479 รวมระยะทางได้ 22 กิโลเมตร ในปี พ.ศ. 2481 จอมพล ป.พิบูลสงครามได้ขยายสายทางต่อจากดอนเมือง ผ่านอำเภอบางปะอิน อยุธยา สระบุรี และขยายต่อมาถึงจังหวัดลพบุรีเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2483 รวมระยะทางได้ 162 กิโลเมตร ต่อมาคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ตั้งชื่อว่า "ถนนพหลโยธิน" เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2493 เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน) หัวหน้าคณะราษฎร ผู้นำการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 และนายกรัฐมนตรีคนที่สองของไทยจากนั้นจึงขยายเส้นทางขึ้นไปเรื่อย ๆ ในที่สุดได้มีการรวมทางหลวงสายลำปาง–เชียงรายเข้าเป็นส่วนหนึ่งของถนนพหลโยธินด้วย
หลักกิโลเมตรที่ 0 ของถนนพหลโยธินเริ่มต้นการนับจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เช่นเดียวกับถนนสุขุมวิทและถนนเพชรเกษม และนับปกติต่อไปจนบรรจบกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 (ถนนสายเอเชีย) ที่อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท