เมื่อชายรักชายชาวจอร์แดน เผยประสบการณ์เข้ารับ "การบำบัดแก้เพศวิถี" จนทำให้พยายามฆ่าตัวตาย
เมื่อชายรักชายชาวจอร์แดน เผยประสบการณ์เข้ารับ "การบำบัดแก้เพศวิถี" จนทำให้พยายามฆ่าตัวตาย
บีบีซี อารบิก ได้พูดคุยกับชายคนหนึ่งที่เคยเข้ารับ "การบำบัดแก้เพศวิถี" ในกรุงอัมมาน ของจอร์แดน และแพทย์คนหนึ่งที่เสนอการบำบัดลักษณะดังกล่าว
สิ่งที่เรียกว่า "การบำบัดแก้เพศวิถี" เป็นการพยายามเปลี่ยนแปลงรสนิยมทางเพศด้วยวิธีการทางจิตวิทยา, ความเชื่อ และบางครั้งก็ใช้วิธีทางกายภาพ การบำบัดนี้ถูกมองว่า ขัดต่อจริยธรรมและอาจเป็นอันตรายต่อผู้รับการบำบัดได้
ชายคนหนึ่งในกรุงอัมมานของจอร์แดน เล่าถึงที่มาของการเข้ารับการบำบัดดังกล่าว "ผมรู้สึกว่า ผมเป็นคนเพียงคนเดียวที่รู้สึกเช่นนี้ผมก็เลยเข้าไปค้นทางออนไลน์ดูว่า ผมจะทำอะไรได้บ้าง มีกรณีตัวอย่างให้ดูจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการยอมรับแล้วก็เปิดเผยตัวตน เพราะมีคนจำนวนมากใช้ชีวิตแบบนี้ แต่ผมรู้สึกว่า ถ้าผมใช้ชีวิตเกย์ ผมคงจะสร้างความเสื่อมเสียให้กับวงศ์ตระกูล อีกทางเลือกหนึ่งที่ผมเห็นทางออนไลน์คือการเข้ารับ 'การบำบัดแก้เพศวิถี'"
ในปี 1990 องค์การอนามัยโลกถอดการรักเพศเดียวกันออกจากกลุ่มบัญชีโรคความผิดปกติทางจิต แต่ยังคงมี "การบำบัดแก้เพศวิถี" แพร่หลายทั่วโลก บรรดาผู้ที่ให้การบำบัดนี้ไม่ค่อยยอมให้สัมภาษณ์ แต่บีบีซีอารบิกได้พูดคุยกับแพทย์คนหนึ่งที่เชื่อว่าการเป็นเกย์ เป็นอาการผิดปกติที่สามารถ "รักษาให้หาย" ได้
นพ.โมฮาเหม็ด อัล-ดับบาส จิตแพทย์ที่ปรึกษา กล่าวว่า "คนรักเพศเดียวกันบางคน ถูกทำให้เชื่อว่าพวกเขาเกิดมาเป็นแบบนี้ นี่เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะท่าทางและการแสดงออกนับตั้งแต่เกิดทำให้พวกเขาเชื่อว่า ตัวเองเป็นเกย์ และเชื่อว่า พวกเขารักษาไม่หาย"
"เราได้เริ่มการรักษาโดยทำให้คนเชื่อว่า การรักเพศเดียวกันเป็นเรื่องผิด ไม่เป็นที่ยอมรับและจะมีผลกระทบต่อตัวพวกเขาและอนาคตของพวกเขา"
นพ.โมฮาเหม็ด อัล-ดับบาส จิตแพทย์ที่ปรึกษา
ชายที่เข้ารับการบำบัดเล่าว่า "ในช่วง 2-3 วันแรก ผมรู้สึกว่า การบำบัดนี้ได้ผล ผมบอกตัวเองว่า 'อย่าคิดเรื่องนี้ มันก็แค่นั้นเอง' ผมนำหน้าคนอื่นที่กำลังบำบัดอยู่ 10 ก้าว เพราะผมไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย"
"ผมคิดว่า ผมเคยห้ามตัวเองไม่ให้คิดเรื่องพวกนี้ได้ แต่ผมก็ไปถึงจุดที่ผมไม่สามารถปกปิดได้อีกต่อไป ผมยังคงชอบผู้ชาย"
จิตแพทย์ที่ปรึกษา เล่าว่า เขาจำได้ว่า มีบางคนทุกข์ใจจากความเชื่อและความคิด ว่าพวกเขาเป็นคนรักเพศเดียวกัน แต่หลังจากการวินิจฉัยพบว่า พวกเขาเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ มีความคิดหมกมุ่นจนทำให้คน ๆ นั้น เชื่อว่า พวกเขาเป็นคนรักเพศเดียวกัน
"เรารักษาอาการย้ำคิดย้ำทำแล้วปัญหานั้นก็ได้รับการแก้ไข" จิตแพทย์กล่าว
ผู้ที่ผ่านการบำบัดเล่าต่อว่า "เมื่อเวลาผ่านไป ผมรู้สึกว่า การรักษาไม่ได้ผล มันทำให้สิ้นสภาพ มันทรหดและเกินจะทานทนสำหรับคนอายุ 17 ปี ผมไม่สามารถบำบัดต่อได้ ผมเลิกเรียนและสิ้นหวังในการรักษา จากนั้นผมก็พยายามฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ"
นักจิตวิทยาที่ต่อต้าน "การบำบัดแก้เพศวิถี" บอกกับบีบีซีว่า มันส่งผลโดยตรงต่อความรู้สึกอยากฆ่าตัวตายในคนที่เข้ารับการรักษาดังกล่าว
"'การบำบัดแก้เพศวิถี' สอนผมว่า เป็นความผิดของพ่อผมเพราะเราไม่ค่อยลงรอยกันตั้งแต่ผมเป็นเด็ก ดังนั้นเมื่อคุณโตขึ้น จึงพยายามแสวงหาความเอาใจใส่จากผู้ชาย มันทำให้ผมคิดว่า เป็นความผิดของแม่ผมด้วยที่เลี้ยงดูผมโดยมีผู้หญิงอยู่รายล้อมตอนผมเป็นเด็ก" ชายคนเดิมเล่า
เขาบอกว่า "แม้ว่าผมทำทุกอย่างนี้เพื่อไม่ให้พวกเขารู้สึกแย่ การบำบัดนี้ทำให้ผมโทษพ่อแม่ของตัวเองและเกลียดพวกเขา ทำให้ผมห่างเหินกับพ่อแม่"
ข้อมูลเพิ่มเติม
นิยามและเอกลักษณ์ แก้ไข
อัตลักษณ์ทางเพศได้รับการอธิบายว่าเป็นส่วนประกอบของอัตลักษณ์ของแต่ละบุคคลที่สะท้อนถึงแนวคิดทางเพศของตนเอง การบูรณาการองค์ประกอบเอกลักษณ์ (จรรยาบรรณ ศาสนา เชื้อชาติ อาชีพ) เป็นอัตลักษณ์โดยรวมมีความสำคัญต่อกระบวนการสร้างแบบจำลองหลายมิติของอัตลักษณ์
อัตลักษณ์ทางเพศสามารถเปลี่ยนไปตลอดชีวิตของแต่ละบุคคลและอาจสอดคล้องกับเพศทางชีวภาพ พฤติกรรมทางเพศหรือความสัมพันธ์ทางเพศที่เกิดขึ้นจริง ตัวอย่างเช่นเกย์ เลสเบี้ยน และไบเซ็กชวลอาจไม่เปิดเผยตัวตนในประเทศโฮโมโฟเบีย กีดกันรักร่วมเพศหรือในพื้นที่ที่มีประวัติเรื่องสิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศไม่ดี ในการศึกษา 1990
โดยองค์กรทางสังคมทางเพศ มีผู้หญิงเพียง 16% และผู้ชาย 36% ที่ยอมรับว่ารักใครชอบพอเพศเดียวกันมีอัตลักษณ์แบบรักร่วมเพศหรือรักสองเพศ
