ชี้มนุษย์โบราณ โฮโม นาเลดี มีความฉลาดสูงแม้สมองเล็กเท่าผลส้ม
ศ. ลี เบอร์เกอร์ ผู้นำทีมสำรวจที่ค้นพบฟอสซิลของโฮโม นาเลดี ในงานแถลงข่าวของนิตยสาร National Geographic เมื่อปี 2015
👉ผลการศึกษาลักษณะของสมองจากร่องรอยที่ปรากฏบนกะโหลกศีรษะมนุษย์โบราณ "โฮโม นาเลดี" (Homo naledi) พบว่ามนุษย์ดึกดำบรรพ์สายพันธุ์นี้มีโครงสร้างของสมองที่ซับซ้อน บ่งบอกถึงระดับสติปัญญาที่อาจจะเข้าขั้นทัดเทียมกับมนุษย์ในยุคปัจจุบัน แม้สมองจะมีขนาดเล็กราวผลส้มเท่านั้น
ศ. ลี เบอร์เกอร์ จากมหาวิทยาลัยวิตวอเทอร์สแรนด์ของแอฟริกาใต้ ผู้นำทีมสำรวจซึ่งค้นพบฟอสซิลโครงกระดูกของโฮโม นาเลดีเมื่อปี 2015 ได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาเพิ่มเติมล่าสุดลงในวารสาร PNAS โดยระบุถึงหลักฐานใหม่ซึ่งชี้ว่า ขนาดของสมองอาจไม่ได้เป็นสิ่งบ่งบอกถึงวิวัฒนาการทางสติปัญญาในมนุษย์ตามที่เคยเชื่อกันมาก็เป็นได้
ภาพมนุษย์โบราณ โฮโม นาเลดี จากฝีมือของศิลปิน
มีการสแกนฟอสซิลกะโหลกศีรษะของโฮโม นาเลดี และใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ประกอบชิ้นส่วนกะโหลกที่แยกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยขึ้นมาใหม่ให้สมบูรณ์ ทำให้เห็นร่องรอยที่ชี้ว่า มนุษย์โบราณสายพันธุ์นี้มีรอยหยักของสมองที่ซับซ้อนในหลายตำแหน่ง ซึ่งรวมถึงสมองส่วนที่เชื่อมโยงกับการควบคุมอารมณ์ และสมองกลีบหน้าที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษาด้วย โดยไม่พบลักษณะซับซ้อนเช่นนี้ในสมองของมนุษย์โบราณสายพันธุ์อื่นที่มีขนาดเล็กเท่ากัน
นอกจากหลักฐานที่เป็นกะโหลกศีรษะแล้ว ศ. เบอร์เกอร์ยังบอกว่า มือของโฮโม นาเลดี มีลักษณะที่เอื้ออำนวยต่อการใช้สร้างเครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ และสถานที่ซึ่งพบซากฟอสซิลของมนุษย์ดึกดำบรรพ์กลุ่มนี้ มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นสุสานใช้ประกอบพิธีศพ ซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่เคยพบว่ามีมนุษย์โบราณกลุ่มใดมีความสามารถประกอบพิธีกรรมได้มาก่อน
ภาพเปรียบเทียบกะโหลก
"การที่โฮโม นาเลดีซึ่งมีสมองขนาด
เล็ก มีร่องรอยของศักยภาพในการใช้สติปัญญาระดับสูงได้นั้น ทำให้เราต้องทบทวนแนวคิดทางวิวัฒนาการที่เคยเชื่อกันมาเสียใหม่ว่า ขนาดของสมองไม่ได้เป็นตัวกำหนดความซับซ้อนที่มีอยู่ภายในเสมอไป" ศ. เบอร์เกอร์กล่าว
เมื่อปี 2015 มีการค้นพบฟอสซิลโครงกระดูกของโฮโม นาเลดี ซึ่งมีความสูงราว 150 เซนติเมตร จำนวน 15 ร่าง ในถ้ำใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของประเทศแอฟริกาใต้ โดยคาดว่ามีอายุเก่าแก่ราว 236,000 - 335,000 ปี ซึ่งนับว่าใกล้เคียงกับช่วงที่มนุษย์ยุคใหม่หรือโฮโม เซเปียนส์ เริ่มมีการประดิษฐ์เครื่องมือขึ้นใช้อย่างแพร่หลาย
ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการที่โฮโม นาเลดี มีลักษณะของมนุษย์โบราณและมนุษย์ยุคใหม่ผสมผสานกัน ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าอาจมีสายสัมพันธ์กับมนุษย์ยุคใหม่ในทางใดทางหนึ่ง เช่นอาจถือเป็นญาติร่วมบรรพบุรุษ หรือเป็นมนุษย์อีกเผ่าพันธุ์หนึ่งที่มีชีวิตอยู่ร่วมสมัยกันเมื่อหลายแสนปีก่อน ซึ่งอาจจะมีโอกาสผสมข้ามพันธุ์กันได้อีกด้วย