โลกเข้าสู่ช่วงอายุใหม่ “เมฆาลายัน” ตั้งแต่ 4,200 ปีก่อน
ภาพถ่ายโลกที่บันทึกด้วยกล้องชนิดพิเศษของนาซาเมื่อปี 2015ที่มาของ
ภาพถ่ายโลกที่บันทึกด้วยกล้องชนิดพิเศษของนาซาเมื่อปี 2015 โดยถ่ายจากดาวเทียมสังเกตการณ์ภูมิอากาศในห้วงอวกาศลึก (DSCOVR)
คณะกรรมการว่าด้วยศาสตร์การลำดับชั้นหินระหว่างประเทศ (ICS) ประกาศให้ช่วงเวลา 4,200 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงอายุ (Age) ใหม่ทางธรณีวิทยาของโลก ซึ่งเรียกว่าช่วงอายุเมฆาลายัน (Meghalayan Age) โดยช่วงเวลานี้เกิดภัยแล้งครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่ออารยธรรมทั่วโลกตั้งแต่อียิปต์ไปจนถึงแผ่นดินจีน
ช่วงอายุทางธรณีวิทยาใหม่ดังกล่าว จะทำให้ตารางธรณีกาล (Chronostratigraphic Chart) ถูกปรับเปลี่ยน โดยแบ่งสมัยโฮโลซีน (Holocene Epoch) ซึ่งเป็นช่วงเวลาตั้งแต่ 11,700 ปีก่อนถึงยุคปัจจุบัน ให้แยกออกเป็น 3 ช่วงอายุย่อย โดยมีช่วงอายุเมฆาลายันรวมอยู่ด้วย
เหตุที่ต้องมีการกำหนดช่วงอายุทางธรณีวิทยาใหม่ขึ้นครั้งนี้ เนื่องจากพบหลักฐานทางเคมีในหินงอกหินย้อยของถ้ำแห่งหนึ่งในรัฐเมฆาลัยของอินเดีย ซึ่งชี้ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงของสภาพภูมิอากาศทั่วโลกในช่วงเวลาดังกล่าว โดยการเปลี่ยนแปลงของไอโซโทปออกซิเจนในหินงอกหินย้อยเผยว่ามีฝนตกในฤดูมรสุมลดลงถึง 20-30%
ความแห้งแล้งที่อาจเกิดจากกระแสน้ำในมหาสมุทรและสภาพชั้นบรรยากาศเปลี่ยนแปลง ทำให้อารยธรรมมนุษย์ในสังคมเกษตรกรรมโบราณต้องต่อสู้กับภัยธรรมชาติที่คุกคามอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นอารยธรรมอียิปต์และกรีกโบราณ อารยธรรมซีเรีย เมโสโปเตเมีย รวมทั้งอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุและลุ่มแม่น้ำแยงซีด้วย
ตารางธรณีกาลซึ่งแบ่งประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติของโลกตารางธรณีกาลซึ่งแบ่งประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติของโลกออกเป็นยุคต่าง ๆ ถูกปรับเปลี่ยนให้มีช่วงอายุ Meghalayan Age เข้าไว้ด้วย
ทั้งนี้ ช่วงอายุเมฆาลายันถือเป็นช่วงอายุทางธรณีวิทยาแรกที่มีความสอดคล้องกับเหตุการณ์สำคัญทางอารยธรรมของมนุษย์ แต่ก็ทำให้เกิดข้อถกเถียงในหมู่นักธรณีวิทยาทั่วโลก นับแต่มีการเสนอแนวคิดนี้ครั้งแรกเมื่อ 6 ปีก่อน โดยหลายคนมองว่าเป็นการรีบร้อนตั้งช่วงอายุทางธรณีวิทยาใหม่ โดยยังไม่ได้มีการอภิปรายถกเถียงกันในหมู่ผู้เชี่ยวชาญอย่างทั่วถึง
หินงอกในถ้ำที่พบในรัฐเมฆาลัยของอินเดีย เป็นหลักฐานชี้ถึงช่วงอายุ (Age) ทางธรณีวิทยาใหม่ของโลก
นอกจากนี้ แนวคิดเรื่องช่วงอายุเมฆาลายัน ยังขัดแย้งกับแนวคิดเรื่องสมัยแอนโทรโพซีน (Anthropocene Epoch) หรือ "สมัยแห่งมนุษย์" ซึ่งเป็นที่นิยมกล่าวขวัญถึงกันก่อนหน้านี้ โดยหลายฝ่ายเห็นว่าราว 1 หมื่นปีที่ผ่านมาควรถือเป็นสมัยธรณีกาลใหม่ เพราะมีความเปลี่ยนแปลงที่เป็นผลกระทบจากการกระทำของมนุษย์ฝังลึกลงไปในระบบนิเวศอย่างครอบคลุมทั่วโลก
แต่อย่างไรก็ตาม บางคนมองว่าการกำหนดให้ช่วงเวลาราว 1 หมื่นปีก่อนจนถึงปัจจุบันเป็น "สมัยแห่งมนุษย์" นั้นยังไม่สามารถทำได้ เพราะขาดหลักฐานทางธรณีวิทยาที่ชัดเจน