ดาบ 7 เขี้ยวตำนานดาบญี่ปุ่น
ค้นหา
Custom Search
คาดว่าถูกพบในช่วงปี ค.ศ.1870 ณ วัดอิโซโนะคามิ บริเวณศาลเจ้าชินโต ตั้งอยู่เชิงเขาเทนริ ในจังหวัดนาระ ตัวดาบมีความยาว 74.9 เซนติเมตร (กิ่งแยกออกมาข้างละ 3 กิ่ง เมื่อรวมกับปลายดาบจะกลายเป็น 7 กิ่ง)
ความน่าสนใจของดาบเล่มนี้ คือรูปร่างของดาบที่เท่และแปลกตา ซึ่งแม้จะขึ้นชื่อว่า “ดาบ” แต่มิได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการต่อสู้หรอกนะครับ เพราะตัวดาบนั้นบางมากและเขี้ยวที่ยื่นออกมาก็ไม่เหมาะที่จะใช้ในการต่อสู้จริง ซึ่งจุดประสงค์ของดาบเล่มนี้ถูกสลักอยู่บนดาบด้วยทองคำเป็นตัวอักษรญี่ปุ่นจำนวน 61 ตัว ซึ่งพอจะถอดความได้ว่า (ไม่สามารถอ่านได้ทุกตัวอักษร เพราะเลือนลางไปบ้างแล้ว)
“ดาบเล่มนี้มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ไม่อาจหาดาบใดมาเทียบได้ มันถูกตีและหลอมด้วยเหล็กกล้านับ 100 ครั้ง ผู้ใดครอบครองจะมีอำนาจกำจัดศัตรูได้ 100 ทัพ โดยกษัตริย์แห่ง ‘แพคเจ’ มอบดาบเล่มนี้ให้กษัตริย์แห่ง ‘แค้วนวะ’ หวังว่าดาบเล่มนี้จะถูกสืบทอดต่อไป” (ทั้งนี้การแปลของนักภาษาศาสตร์แต่ละคนอาจแตกต่างกัน เนื่องจากตัวอักษรบางตัวเลือนหายไปตามกาลเวลา)
จากการถอดความหมายที่จาลึกบนดาบพอจะสรุปได้ว่า ในอดีตอาณาจักรแพคเจ (ประเทศเกาหลี) มอบดาบเล่มนี้ให้เป็นของบรรณาการแก่กษัตริย์แห่งอาณาจักรวะ (ประเทศญี่ปุ่น) เป็นการสร้างสัมพันธ์ทางการทูต แต่ด้วยหลักฐานที่มีไม่มากจนเกิดเป็นข้อถกเถียงว่าประเทศใดควรได้สิทธิ์ในการครอบครองดาบเล่มนี้กันแน่
ซึ่งนอกจากดาบ 7 เขี้ยวแล้ว ยังมีของบรรณาการอื่น ๆ ที่อาณาจักรแพคเจมอบให้อีกคือ ดอกไม้ทองคำประดับมงกุฎ รวมถึงตราประทับทองคำ ซึ่งถูกพบในพื้นที่เดียวกันครับ
ดอกไม้ทองคำ , ตราประทับทองคำ
ปัจจุบันดาบ 7 เขี้ยว ถูกเก็บรักษาไว้ที่วัดอิโซะโนคามิ (ที่เดิมที่ถูกพบ) โดยไม่ได้จัดแสดงให้เข้าชม แต่เนื่องด้วยดาบเล่มนี้ก็มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์กับประเทศเกาหลีเหมือนกัน ทำให้พวกเขาสร้างดาบ 7 เขี้ยวแบบจำลองขึ้น โดยจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์แพคเจ ณ กรุงโซลครับผม