โอซาน่า มาลายา” เรื่องจริงของเด็กสาว ที่ถูกเลี้ยงดูโดยสุนัข ตั้งแต่ 3 ขวบ


ค้นหา
เมื่อปี 1994 เจ้าหน้าที่ยูเครนพร้อมนักสังคมสงเคราะห์ได้เข้าช่วยเหลือเด็กหญิง อายุ 8 ขวบคนหนึ่ง เพราะได้รับแจ้งว่าเธอถูกพ่อแม่ละเลยและไม่ได้รับการศึกษา โดยเด็กคนนี้มีชื่อว่า “โอซาน่า มาลายา” (Oxana Malaya) ซึ่งสภาพที่เจ้าหน้าที่พบเธอนั้น ทุกคนก็ต้องประหลาดใจ เพราะเธอไม่ดูเหมือนมนุษย์แต่ดูเหมือนสุนัขยังไงยังงั้น …

ภาพขณะอยู่ในศูนย์รักษาจิตเวศ ซึ่งหลังจากใช้เวลาฟื้นฟูนานหลายปี (เพราะตอนนั้นเธอไม่ยอมพูดคุยกับใครเลย หรือเธออาจพูดไม่เป็น) จึงทำให้ทราบว่า เธอถูกเลี้ยงดูโดยสุนัขมานานกว่า 5 ปี เพราะพ่อแม่ติดแอลกอฮอล์อย่างหนัก โดยทั้งสองมีหน้าที่เพียงหาข้าวหาน้ำแล้วโยนให้ลูกกับหมาเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เธอมีพฤติกรรมเหมือนกับสุนัขแทบทุกประการ นั่นเอง

ตามข้อมูลจาก BBC ที่อ้างอิงถึงรายงานของตำรวจ เผยว่า ในคืนวันที่เธอได้อยู่กับสุนัขวันแรก ณ ตอนนั้นเธออายุเพียง 3 ขวบ มันเป็นคืนที่หนาวเหน็บและพ่อแม่เธอก็ไม่สนใจ เธอจึงเดินไปนอนกอดกับฝูงสุนัขในละแวกบ้าน ซึ่งพวกมันก็คุ้นเคยกับเธอดี จึงไม่ถูกทำร้ายและนับแต่นั้นเธอก็อยู่สุนัขฝูงนี้มาโดยตลอด เธอสังเกตและทำตามทุกพฤติกรรมของสุนัขจรจัด ทั้งการทำความสะอาดด้วยการเลียตัวเอง, เดิน 4 ขา, กินอาหารเหลือ-อาหารดิบ, ดมหาอาหาร รวมถึงการเห่า-หอนด้วย

จนกระทั่งเธอได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ และพาไปรักษาที่สถาบันจิตเวชในเมือง โอเดสซ่า (Odessa) ประเทศยูเครน โดยเรื่องราวของเธอได้รับความสนใจจากทั่วโลก รวมถึง Animal Planet ก็เดินทางมาถ่ายทำสารคดีของเธอด้วย

จนปี 2006 จิตแพทย์ชาวอังกฤษ ชื่อ ดร.ลิน ฟราย (Dr.Lyn Fry) สนใจเรื่องราวและอาสาที่จะรักษาเธอให้กลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ การรักษาจากผู้เชี่ยวชาญดำเนินไปอย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาไม่ถึง 2 ปี เธอก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้อีกครั้ง สามารถสื่อสารได้ และสภาพจิตใจกลับมาเป็นปกติเหมือนคนทั่วไปครับ

ดร.ฟราย เล่าว่า “ณ ตอนนั้น เธอไม่สามารถสื่อสารภาษามนุษย์ได้เลย เธอตอบได้แต่เพียง ‘ใช่’ หรือ ‘ไม่ใช่’ ซึ่งจากการทดสอบระดับสติปัญญา (IQ) พบว่า เทียบเท่าเด็กอายุ 6 ขวบ (ตอนนั้นเธออายุ 20 ปี) และแม้จะถูกฝึกให้ยืนและเดิน 2 ขาจนคล่อง แต่บางครั้งก็เผลอเดิน 4 ขา (อาจเพราะความเคยชิน) และเธอมักจะนำอาหารไปซ่อนและแอบกินใต้โต๊ะ ข้อดีของเธอที่ทำให้การบำบัดง่ายขึ้น คือ เธอจิตใจดี ขี้เล่น และปฏิบัติตามทุกขั้นตอนอย่างเคร่งครัด จึงทำให้ได้ผลลัพธ์อย่างที่ทุกคนเห็นในปัจจุบัน”

👉ภาพซ้าย – คือการให้สัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2013 โดยเธอสามารถพูดคุยได้ปกติ แต่ยังมีอาการเขินอายบ้าง ซึ่งเธอเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่ได้เจอพ่อครั้งแรก เธอไม่ได้รู้สึกโกรธ และได้พูดคุยกับเขาเป็นอย่างดี แต่เธอก็ยังอยากเจอแม่อีกครั้ง เพราะตอนนี้ไม่ทราบว่าแม่หายไปไหน

ปัจจุบัน เธออายุ 34 ปี ยังอาศัยอยู่ในยูเครน โดยทำงานเป็นผู้ช่วยในโรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่ง และตอนนี้เธอก็มีความสุขมาก เพราะนอกจากจะได้พบกับพ่อที่เลิกเหล้าแล้ว ยังได้พบกับพี่ชายที่พลัดพลาก และมีแฟนหนุ่มที่อายุไล่เรี่ยกันคอยดูแลเธอในทุก ๆ วันครับ

👉 มนุษย์จะเริ่มเข้าใจและจดจำความคิดของตัวเองได้เมื่ออายุประมาณ 4 ขวบ ซึ่งเป็นช่วงที่สมองส่วนฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) เติบโตเต็มที่ จึงเป็นเหตุผลที่เราเริ่มเข้าเรียนกันในช่วงวัยนี้นั่นเอง 

และการเปิดเผยเบื้องหลังของเรื่องนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นการสารภาพผิดจากผู้เป็นพ่อ ที่ได้ยอมรับว่าตัวเขาและภรรยาเลี้ยงดูลูกสาวแบบทิ้งขว้างจริง ส่วนลูกชายก็ย้ายออกจากบ้านเพราะทนกับพฤติกรรมของพ่อและแม่ไม่ไหวครับผม

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

มิจฉาชีพชายที่สวมรอยเป็นหมอในโรงพยาบาลจนกลายเป็นดาว TikTok

ประวัติความเป็นมาของเครื่องล้างจาน ที่มีมากว่า 125 ปี

ภัยพิบัติแห่งสนามบิน Tenerife สายการบิน: KLM Royal Dutch Airlines และ Pan American World Airways